15 พฤศจิกายน 2554

New World Order

วงโคจรของดาวเคราะห์ที่เข้าใกล้โลกถูกปกปิดมาอย่างยาวนาน จากการตรวจพบของหอดูดาวนิวเม็กซิโก ยืนยันวงโคจรการชน หอดูดาว อริ โซน่าร์ จนกระทั่งมีมาตรการรับมือ จึงปล่อยให้มีการเปิดเผย 
โครงการ NESt กางเขนตะวันออก ถูก ดันเต็มสูบ เนื่องจากการคาดหมายว่าโครงการ 7 sector อาจมีความเสี่ยงรั่วไหล จากการที่เซิร์ฟเวอร์เจ้าหน้าที่ระดับสูงเกิดรูโหว่ มีการเข้าถึงหลายครั้ง ในการติดตามข้อมูลในไทย  ถึงผลวิเคราะห์ระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่น่าวิตก  แต่ ส่งผลให้ต้องทำการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ปฏิบัติการ Mine Map ลูวินสกี้ขึ้น  พวกเขากลัวไก่ตื่น จึงยังไม่มีการยิง ปธด ฟรีเมสันต์   เกิดการเทคโอเวอร์เว็บสนุกดอทคอม KSC internet DTACAISCHIN  งบตั้งCITIC ขึ้นอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2544 .ฉก399โดยอ้างการปราบยาเสพติด  แต่พื้นที่ทำการจริงทั่วประเทศ ในแถบนี้(ต่อมาอธิการบดีม.เทคโนโลยีมหานครได้เป็นรัฐมนตรีICT สมัยสุรยุทธุ์ ผู้คุมพื้นที่ พค.ทมิฬ) นอร์ตัน ซื้อ คลีนสวีพ ที่นักพัฒนาถูกวางระเบิดในรัสเซีย  ประวัติผู้ที่เกี่ยวข้องถูกนำมาวิเคราะห์ซ้ำ เกิดปฏิบัติการซ้อนปฏิบัติการ ในทุกความเป็นไปได้ของข้อมูล แม้แต่ แฟ้มลับ พตท.ทักษิณ ถูกนำมาวิเคราะห์ใหม่ มีข้อมูลที่เซ็นเซอร์เต็มไปหมด จากแฟ้มข้อมูลลวงที่ระบะบุเพียงว่า เขาเป็นแหล่งข้อมูลการวิเคราะห์ที่ไม่ได้ลงภาคสนาม
ห้างทองของผู้พันตึ๋ง กลุ่มกระทิงแดง ถูกจับที่อาบอบนวดยโสธร  (คนมีสี เป็นผู้ถือหุ้นจูเลียน่า กับ นักธุรกิจ ที่จบอัสสัมชัญ)( กลุ่มยาเคมี เชื่อมโยงผ่าน บ.รปภ ทอง) ส่วนการส่องนักมวยในศาล น่าจะเป็นฝีมือนาวิกเมกันที่เข้ามาสืบ ก๊อดอาร์มี่ที่กาญจ ฯลฯ  ที่ Ciaไม่ขัดขวางการปฏิวัติรัฐบาล พตท.ทักษิณ เพราะมีการทาบทาม พอ.สุรยุทธ์  ปิดเกมว่า ประเทศไทย ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นความผิดเฉพาะของรัฐบาล  ที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน ด้วยการรู้เห็นเป็นใจ ถ้าเป็นประโยชน์ต่อพวกเขา 
ชิบปิงหมู ทนายสมชาย นีละไพจิตร ที่ หายตัว  ถ้าเป็นการอุ้ม มีความเป็นไปได้หลายประการ เช่น ถ้า ถูกจับ โดยระบบมาตรฐานกระบวนการยุติธรรมไทย ซึ่งสะกดชื่อนักโทษตามอารมณ์ไวยากรณ์ เขาอาจชื่อนายแมว เป็นชาวต่างด้าวที่ถูกขังลืม เพราะไม่มีใครไปดำเนินการติดต่อใครให้
ถ้ายังไม่เป็นปุ๋ย ก็อาจถูกส่งตัวไป กวนตานาโมโดยใช้ชื่อมุสลิม
คนบนรถเมล์ แถวหมอชิต ที่เห็น ต่างเข้าใจว่าเป็นการจับโจร  แล้ววันนั้น รถไม่ค่อยติดด้วย ทั้งๆที่ตั้งแต่มีรถไฟฟ้ามา ถนนเส้นนี้เปิดไฟแบบรถติดมาก และรถสะสมจากดินแดง ที่รถเมล์จากวิภาวดีมีน้อย จะค่อนข้างระบายเร็ว
ถ้าเป็นมาตรฐานอิตาลีอย่างน้อยก็ยังมีการบันทึกการจับกุม
ระบบที่ไม่อาจจะไม่เคยมีความยุติธรรม ที่ตราบใด ตำรวจส่วยอยู่บนฐานของอิทธิพล  เส้นสายที่สั่งจับใครก็ได้  และยังมีการซ้อมตามอำเภอใจอยู่  หรือ มีคน เล่นบอล จนเสีย  หายตัวไป
คนในกระบวนการยุติธรรมนิยมมีภรรยาหลายคนจนเป็นเรื่องปรกติ  เป็นนัยว่า จะได้ฝึก บริหาร การยุติธรรม
มีวิธีนึงจะช่วยแก้ได้ในระยะยาวคือ ต้องจำกัด ให้ การถ่ายเอกสารในพื้นที่ สน. และในศาล ต้อง บริหาร และดำเนินการโดยสมาชิก สมาคมภริยาข้าราชการในกระบวนการยุติธรรมโดยเปิดเผยเท่านั้น  ถ้าขยายผลไปหน่วยงานราชการอื่นๆ ระบบราชการจะดีขึ้นด้วย  พร้อมทั้งเปิดให้ขาย USB disc IT


ปรกติ เอกชนที่ไปเช่าเปิดร้านถ่ายเอกสารตามมหาวิทยาลัย จะมีหลายร้าน และราคามาตรฐาน อยู่ที่ 50 สตางค์  แต่ตามหน่วยงานที่ไม่มีความยุติธรรม  จะเก็บใบละ สองบาท
คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ มีมานาน 20 กว่าปี  แต่ ระบบการเชื่อมโยงระบบ คอมพิวเตอร์ในกระบวนการยุติธรรมไม่คืบหน้า มีแต่การอบรม สัมนา ประชุม ศาลต้นแบบ ก็อาจเกิดจากกลุ่มข้าราชการ รู้แก่ใจเรืองขุมทรัพย์นี้ 
และอาจมีความจำเป็นต้องให้เงินเดือนเพียงพอที่จะเลี้ยงค่าครองชีพของครอบครัว ซึ่งหลักๆ คือ ส่งบ้าน รถ ค่าเทอมหน่วยกิต  เบี้ยเลี้ยงส่งลูกเรียน  หมื่นห้าจะไปพออะไร  ระบบแบบนี้ หมายถึงรัฐบังคับให้มีการทุจริต   นอกเสียจาก สนับสนุนให้พวกเขาเป็น SMe หรือทำโอท็อปชนิดที่ตลาดต้องการสูง  ไม่ใช่สินค้าแบบซื้อชั่วครั้งชั่วคราวตามอารมณ์

เปิดให้เช่าตู้เซฟในสถานีตำรวจ โดยอยู่ในระบบ ip CCTV Motion detech 24 ชั่วโมง
หรือเปิดศูนย์กลาง ร้านทอง และธนาคารขึ้น บริเวณ สนาม หน้าสถานีตำรวจ  หรือ สถานีย่อย ในชุมชน

 ต้องไปออกกฎหมายที่สหรัฐ ให้สิทธมนุษยชน กฎหมายสิทธิเสรีภาพ มีผลบังคับใช้ต่อมนุษย์ทุกคน ทั้งที่ใช่ หรือไม่ใช่ พลเมืองสหรัฐ ทุกพื้นที่ประเทศทั่วโลก และในอวกาศ หรืออย่างน้อยให้เริ่มที่ประเทศที่เป็นอาณานิคมแบบกลายๆก่อน
ประชาชนในประเทศที่เป็นอาณานิคมแบบกลายๆสมควรมีสิทธิ์เลือกตั้งในสหรัฐ
ญี่ปุ่น เกาหลี ไทยไต้หวัน จีน ขายของที่ผลิตได้ ในราคาถูกเหมือนได้เปล่าให้กับเศรษฐกิจและสังคม สหรัฐ  แล้วยังต้องเอาเงินที่ได้กลับไปซื้อพันธบัตรสหรัฐอีก แทนที่จะเอาไปใช้ตามความจำเป็น เพราะถูกการวางหมากบังคับ
แผ่นดินไหวที่อินโดนีเซีย และ ชิลี รอยแยก 1600 จาก 1900 กิโลเมตร ทำให้โลกเปลี่ยนมุมบิดตัว แกนหมุนของโลกเกิดการเคลื่อนตัว   ส่งผลต่อวงโคจรการมุดบิดตัวของดวงจันทร์ เสริมแรงส่งด้วย CME ฮอล์ลเอฟเฟ็คซ์ แม็กนีโตร ชีลด์ด้วยสารเคมีจานพลาสม่า วงโคจรของโลกมีความสเถียรมากขึ้น พร้อมๆกับความเร็วในการหมุนรอบตัวเองต่อวันที่เพิ่มขึ้นของโลก เมื่อเกิดแผ่นดินไหวจำนวนมากเกิดขึ้นทั่วโลก แต่ละเพลทมีความแน่นมากขึ้น การยุบตัวจะเร่งความเร็วในการโคจรของโลก พร้อมๆกับการเป็นหลักประกันลดการแตกของรอยต่อเพลท ป้องกันไม่ให้ลาวาไหลออกมาจำนวนมาก ถ้าชิ้นส่วนดาวเคราะห์น้อย ดวงจันทร์ หรือดาวหางตกใส่โลก ซึ่งฝุ่นควัน และการสั่นไหวจะปลดปล่อยก๊าซมีเทนขึ้นจำนวนมากจะปกคลุมโลกทำให้สภาอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หรือเกิดยุคน้ำแข็งและมีคนเสียชีวิตเป็นพันล้านเนื่องจากขาดอาหารได้
และถึงแม้จะไม่ตกใส่ แต่ถ้าดวงจันทร์ถูกกระชากหลุดไป อาจส่งผลต่อสนามแรงดึงดูดโลก รอบฮอร์โมนมนุษย์จะมีปัญหา  หอนไม่ออก ส่งผลต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์
ซึ่งในยามสงบ สามารถใช้แรงของลมสุริยะที่เข้ามาตามรูโหว่โอโซนCFC ที่ขั้วโลก เพิ่มความแรงปั่นขั้วโลกพร้อมๆกับการใช้โครงการ HARRP ที่อยู่ขั้วโลก อลาสก้า และนอร์เวย์ ควบคุมสเถียรภาพการหมุนของโลก  อีกทั้งการละลายของภูเขาน้ำแข็งจะช่วยชะลอ ปรากฏการณ์ PETM ไม่ให้ทะเลดูดซับคาร์บอนไดอ็อคไซด์จนอิ่มตัวได้ชั่วคราว   แต่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change จึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้

โลกเป็นโอเอซิสเล็กๆเท่าเม็ดทรายในอวกาศ การเปลี่ยนแปลงใดๆเพียงเล็กน้อย ทั้ง บนโลก ระบบสุริยะ และในอวกาศ จะส่งผลให้เกิดการสูญพันธุ์ได้ง่ายมาก

ไขปริศนาการสูญหายของบรรยากาศดาวอังคาร   http://futuresci.webs.com/


โครงการควบคุมใช้โลกเป็นยานขับเคลื่อนในอวกาศ เนื่องจากโลกเป็นแหล่งเดียวที่จะมีอ็อกซิเจน น้ำ และอาหารเพียงพอสำหรับมนุษย์จำนวนมากในอวกาศอันไกลโพ้น





Change time
เปลี่ยนเวลา





Change World
เปลี่ยนชะตาโลก





Change time Of Human life.
เปลี่ยน เวลา ชีวิต มนุษย์





วิวัฒนาการ  Evolution
Iron Man 2029.



สภาวะโลกร้อนน่าจะทำให้ชั้นบรรยากาศขยายตัว บีบชั้นโอโซนให้หนาแน่นขึ้น
เปรียบเทียบกับการออกแรงผลักลูกบอลลูกเล็กกับลูกใหญ่ การออกแรงผลักบอลลูกใหญ่จะใช้แรงผลักที่น้อยกว่าเนื่องจากรัศมีต่างกัน
ชั้นโอโซนมีส่วนสัมพันธ์กับชั้นสนามแม่เหล็กโลก แมกนีโตรสเฟียร์ สัมพันธ์กับแรงของลมสุริยะที่มีรังสีแกมม่าด้วย โดยปี 2012 จะเป็นช่วง โซล่าร์แมกซิมั่ม
คาดว่าอยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูลและติดตามผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชั้นบรรยากาศ
แต่ถึงยังไงก็ต้องรณรงค์เรื่องโลกร้อนและคาร์บอนเครดิตเพื่อใช้ควบคุมสภาวะอากาศโลก
สิ่งที่สำคัญกว่าคาร์บอน คือ ก๊าซมีเธน ซึ่งทำลายบรรยากาศได้รุนแรงกว่า อาจจะเป็นสาเหตุให้มีการวิจัย แอนแทร็กซ์จัดการวัว
การเร่งการใช้ทรัพยากรพร้อมกันทั่วโลก ทำให้มวลสารลงไปเพิ่มในทะเล จะทำให้โมเมนตัมหดตัว เร่งความเร็วขึ้น  แต่จริงๆแล้วควรเน้นหนักที่เกลือมากกว่า เพื่อรักษาระบบนิเวศน์ ความเข้มข้นขึ้นของเกลือเพียงเล็กน้อยก็ส่งผลต่อการรักษาน้ำแข็ง และการเก็บกักอุณหภมิในทะเล
สภาวะโลกร้อนจะกลายเป็นฉนวน ถ้าโลกกำลังเข้าสู่ยุค ไอซ์เอจ
มีการตรวจพบว่าขอบระบบสุริยะมีความสว่างมากขึ้น และมีการยอมรับยืนยันมานานกว่า 30 ปี ซึ่งหมายถึง มีกลุ่มพลังงานขนาดใหญ่เข้ามาใกล้
ทฤษฏี Galactic Super Wave    http://truth4thai.org/superwave

ทฤษฏนี้คิดค้นโดย ดร. Paul LaViolette ซี่งเป็นการศีกษาเกี่ยวกับการระเบิดจากจุดศูนย์กลางของแกเล็คซี่ ทฤษฏีนี้ได้อธิบายถีงความเชื่อมโยงระหว่างแรงระเบิดกับปรากฏการณ์ที่เกิดขี้นบนโลกเมื่อหลายพันปีก่อน รวมถีงช่วง ICE Age ซี่งมีสัตว์หลายชนิดสูญพันธุ์ พลังงานและคลื่นที่ส่งออกมาจากจุดศูนย์กลางของทางช้่างเผือกนั้นส่วนใหญ่จะประกอบด้วยรังสี คอสมิก และ แกมมา และคลื่นอย่างอืน
เมื่อพลังงานเหล่านี้เคลื่อนตัวเข้าใกล้ระบบสุริยะจักรวาลด้วยความเร็วใกล้ความเร็วแสง จะทำให้สนามแม่เหล็ก Heliopause ของดวงอาทิตย์เกิดการหดตัว และ ทำให้ส่วน Bow shock ขยายตัวขี้น และไปหลอมอุตกาบาตที่อยู่ล้อมรอบระบบสุริยะจักรวาล เมื่อเกราะสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์หดตัวลงก็ทำให้ฝุ่นละอองเข้ามาในระบบสุริยะมากขี้นจนทำให้พระอาทิตย์ล้อมรอบด้วยฝุ่นละอองและเผาพลาญปริมาณมากและเปลี่ยนเป็นสีแดง และกลายเป็น T Tauri Star และเกิดการระเบิดขนาดใหญ่ขี้น จากงานวิจัยของเขาพบว่า Heliopause ได้ลดขนาดลงจนถีงดาวพฤหัส เมื่อสมัย หมื่นกว่าปีที่แล้ว
หลักฐานในการพิสูจน์ทฤษฏนี้ ได้จากตัวอย่างน้ำแข็งที่ขุดมาจากขั้วโลกเหนือและใต้ ซี่งเป็นที่ๆ มีพลังงานเข้ามามากที่สุด เมื่อพลังงานรังสีคอสมิกเข้ามามากจะทำปฏิกริยากับชั้นบรรยากาศ เกิดเป็นธาตุ Beryllium 10 ถ้าหากตรวจพบปริมาณมากในน้ำแข็งจะเป็นตัวบ่งบอกถีงผลกระทบที่เกิดขี้นบนโลกจากปฏิกริยานี้
นอกจากนั้นแล้วเรายังตรวจพบ Nickle ทอง และ Iridium ในน้ำแข็งเป็นปริมาณมากซี่งเป็นฝุ่นละอองจากรังสีคอสมิก เราตรวจจับธาตุเหล่านี้ปริมาณมากเมื่อประมาณ 5,300 11,500 และ 28,000 ปีก่อน ถ้าดูประวัติศาสตร์โลกในช่วงนั้น จะพบว่าเกิดภัยพิบัติขี้นอย่างใหญ่หลวงเช่นเมื่อประมาณ ห้าถีงหกพันปีที่แล้ว เกิดน้ำท่วมโลก ช่วงประมาณ 11500 ปีที่แล้วเป็นยุคของ Ice Age และมีสัตว์สูญพันธุ์เป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าโลกของเรานั้นมีการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศอย่างฉับพลันและมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในช่วงอายุขัยของเรา ซี่งการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากแรงกระตุ้นจากนอกระบบสุริยะจักรวาล
ทฤษฏีนี้เริ่มมีความเป็นไปได้สูงขี้นในการอธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขี้นกับระบบสุริยะจักรวาล เมื่อเราสามารถตรวจจับการระเบิดจากจุดศูนย์กลางของทางช้างเผือกเราจะดาวเทียม Chandra ในปี 2003 จากพลังงานที่มาจาก SGR A* ไปทำปฏิกริยากับกลุ่มก็าซที่ SGR B1 ซี่งห่างออกไปเป็นระยะทางประมาณ 350 ปีแสง สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าพลังงานนี้กำลังเดินทางมาหาระบบสุริยะจักรวาลในไม่ช้านี้ ซี่ง ดร. LaViolette ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะมาถีงโลกภายใน 400 ปีนี้ด้วยความน่าจะเป็น 90 เปอร์เซ็นต์


หลักฐานของอิทธิพลจากดวงอาทิตย์ที่ทำให้เกิดการสูญสิ้นพันธุ์ยุคพลีสโตซีน


บทความ 23 พ.ย. ค.ศ.2010 ของ Paul LaViolette จาก http://www.etheric.com/Downloads/SPE.html


กล่าวแสดงหลักฐานจากแก่นน้ำแข็งขั้วโลกที่มีการเพิ่มจำนวนคาร์บอนกัมมันตรังสีเฉียบพลัน เมื่อราว 12,800 ปีที่แล้วและการสิ้นสุดยุคโบราณหนึ่งคือ พลีสโตซีน เปลี่ยนไปสู่อีกยุคหนึ่ง ที่อาจเป็นผลจากปริมาณโปรตอนจำนวนมหาศาลที่ทำให้สนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนแปลงชั่วขณะ และโปรตอนความเข้มสูงที่ทะลวงผ่านถึงผิวโลก ชีวิตทำให้สัตว์ใหญ่ทั้งหลายยุคนั้นสูญพันธุ์


ดูภาพ เรื่องราวยุคพลีสโตซีนจาก http://www.trussel.com/prehist/news275.htm


บันทึกหลักฐานจากแก่นน้ำแข็งกรีนแลนด์แสดงภาวะไนเตรทสูง แต่ช่วงหนึ่งของชั้นน้ำแข็งได้พบปริมาณไอโซโทปของธาตุเบอริเลียม (10Be) ลักษณะเช่นนี้แสดงว่าขณะนั้นที่ผิวน้ำแข็งเกิดเผยผึ่งปะทะกับรังสียูวี คว่ามเข้มสูงเป็นเวลานาน นั่นเป็นผลจากการที่ชั้นโอโซนถูกทำลาย ต่อมาชั้นบนขึ้นไปของแก่นน้ำแข็ง ได้แสดงการเย็นตัวอย่างฉับพลันและอุ่นขึ้นของยุคหนึ่ง (Alleröd) ตามมาด้วยอีกยุคหนึ่ง (Alleröd/Younger Dryas) ที่มีปริมาณแอมโมเนียมความเข้มข้นสูงมาก การตามต่อด้วยชั้นน้ำแข็งสีเข้มของชั้นนี้ บ่งบอกว่าเป็นช่วงที่มีไฟไหม้ระดับกว้างกระจายทั่วโลก ซึ่งคล้ายกับชั้นน้ำแข็งที่ได้จากอเมริกาเหนือยุคหนึ่ง ด้วยเหตุที่เหตุการณ์นี้เกิดกว่าร้อยปีหลังยุคเย็นตัว จึงตัดเรื่องการพ่งชนจากดาวหางที่กระตุ้นให้เกิดไฟบรรลัยกัลป์ที่เป็นผลต่อฤดูหนาวนิวเคลียร์ออกไป
Paul LaViolette กล่าวว่าการเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 9.3 R เมื่อ ค.ศ. 2004 และเกิดสุมาตราสึนามินั้น ตรวจจับรังสีแกมมาระดับสูงกว่าที่เคยบันทึกได้ถึง 100 เท่า รังสีปรากฏช่วงสั้นๆ เพียง 1.5 วินาที และค่อยๆ ลดลงในช่วงเกิน 5 นาที ในลักษณะที่เป็นจังหวะ 7.57 วินาที รังสีมาจากดาวนิวตรอนชื่อ SGR1806-20 น่าสนใจว่าจากระยะห่างที่ 45,000 ปีแสง และมาจากภายในกาแล็กซีของเรา ดังนั้นจึงให้สมมุติฐานว่าแรงกระตุ้นรังสีแกมมาที่รุนแรงมีส่วนสัมพันธ์กับแผ่นดินไหวครั้งนี้ การที่รังสีที่ตรวจได้มาช้า 44.6 ชม. หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว ความเร็วของรังสีแกมมาจึงเป็น 0.99999989 c ของความเร็วแสง รังสีนี้มาพร้อมกับคลื่นแรงโน้มถ่วง ดูเพิ่มเติมเรื่องที่น่าสนใจนี้ได้จาก
http://www.etheric.com/GalacticCenter/GRB.html
ยังมีส่วนเชื่อมโยงไปยังเว็บที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับหน่วยงานเฝ้าระวัง superwave มาให้ และงานวิทยานิพนธ์ กับให้หนังสืออีกจำนวนหนึ่ง เป็นแนวคิดใหม่หลายประการ สำหรับผู้สนใจศึกษา จะเป็นประโยชน์ เพราะจะเข้าใจสาเหตุของเหตุการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลง ที่มีหลักฐานประกอบอภิปราย



งบวิจัยขั้วโลก ส่วนใหญ่อาศัยเรื่องโลกร้อน แน่นอนว่าเป็นความร่วมมือจาก หลายประเทศทั่วโลก จึง ปกปิดเรื่องโครงการ ยิงดวงอาทิตย์ Rising sUN ไว้ได้   รังสีเดินทางมาถึงโลก หลังเกิดแผ่นดินไหว ปี 2004   44 ชั่วโมง  ใกล้เคียง กับช่วงเวลา ของ CME เดินทางจากดวงอาทิตย์มายังโลก หลายครั้ง ประมาณ 153 ล้านกิโลเมตร และเลือกเป็นช่วงนี้เพราะเป็นช่วงเวลาดวงอาทิตย์ห่างจากโลกมากที่สุด 

มีการออกแบบรอยเชื่อมต่อยานขนส่งอวกาศกับท่อนเชื้อเพลิงส่งกำลังให้เป็นช่องมุดออกมาได้ และท่อนจรวดส่งกำลังจะตกลงไปในทะเล

พวกเขาต้องหลอกชาวบ้านว่าเป็นโครงการอวกาศ  ทั่วไป ค้นหาอาณานิคม ค้นหาสิ่งมีชีวิต ทั้งๆที่ความเป็นไปได้ในการที่มนุษย์จะเดินทางล้านปีแสงยังเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เอาแค่สัก สองเดือนก็ยากมากๆแล้ว การที่ยานระเบิด น่าจะมาจาก การปิดงบตัวเลขทางการเงินให้ลงตัว  และด้วยเหตุผลที่ต้องปกปิด จึงเป็นการสับราง มนุษย์ ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่

รังสีแกมม่าจะเดินทางช้ากว่านิวตริโน



นิวตริโน (อังกฤษ: Neutrino) เป็นอนุภาคมูลฐานที่เคลื่อนที่เร็วกว่าความเร็วแสง ไม่มีประจุไฟฟ้า และสามารถเคลื่อนผ่านสสารทั่วไปได้โดยแทบไม่รบกวนหรือไม่สามารถตรวจจับได้ ใช้สัญลักษณ์แทนด้วยอักษรกรีกว่า (นิว)
นิวตริโนเกิดขึ้นมาจากผลลัพธ์ส่วนหนึ่งที่เป็นผลตกค้างจากกัมมันตรังสีหรือปฏิกิริยานิวเคลียร์ เช่นพวกที่เกิดขึ้นในดวงอาทิตย์ ในโรงปฏิกรณ์นิวเคลียร์ หรือเมื่อรังสีคอสมิกชนกับอะตอม นิวตริโนมีอยู่ 3 ชนิด หรือ "เฟลเวอร์" ได้แก่ อิเล็กตรอนนิวตริโน มิวออนนิวตริโน และทาวนิวตริโน แต่ละประเภทจะมีคู่ปฏิสสารของตัว เรียกว่า แอนตินิวตริโน อิเล็กตรอนนิวตริโนกับแอนตินิวตริโนจะเกิดขึ้นเมื่อนิวตรอนเปลี่ยนไปเป็นโปรตอน หรือเมื่อโปรตอนเปลี่ยนมาเป็นนิวตรอน โดยทั่วไปปฏิกิริยาที่เกี่ยวข้องกับนิวตริโนมักเกิดจากแรงนิวเคลียร์แบบอ่อน



มีการพบว่ามีปฏิกิริยานิวเคลียร์อยู่ในพื้นโลก ความร้อนจึงคงอยู่ได้นานขนาดนี้



นิวตริโนส่วนมากที่วิ่งผ่านโลกเป็นอนุภาคที่แผ่ออกมาจากดวงอาทิตย์ ทุกๆ วินาทีมีอิเล็กตรอนนิวตริโนจากดวงอาทิตย์กว่า 50 ล้านล้านหน่วยเคลื่อนผ่านร่างกายของมนุษย์[
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%99
และปี 2012 เป็นปีที่มีความเสี่ยงสูงของการเปิดรูชั้นโอโซน ใช้ CME โจมตีฝ่ายตรงข้าม เป็นปฏิบัติการไร้เงา



รัสเซียยอมรับว่ามีการศึกษาความเป็นไปได้ในการที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ กับดาวที่โคจรเข้ามาใกล้โลก





วันที่ 8 11 2011 ที่ผ่านมา รัสเซียและจีนได้ส่งยานโฟบอส กรั๊นท์ หรือ โฟบอส กราวด์ ขึ้นไปตกค้างอยู่ในวงโคจรโลก เป็นแผนสำรอง จากโครงการอวกาศ iSS ที่ลากยาวการประกอบชิ้นส่วนโครงการมาจนถึงปี 2011 เพื่อลดจำนวนคนที่ประจำการ (เป็นความร่วมมือของ 16ชาติ ที่เริ่มเมื่อ ปี 1998 ซึ่งเป็นปีที่ บิลคลินตันได้มีการประกาศ แผนยุทธบริเวณฉบับใหม่ ของ New World Order ที่เคยประกาศไปอย่างเป็นทางการเมื่อ  11 11 1990 โดย จอร์จบุช )  ตามช่วงเวลาการมาของ ดาวเคราะห์น้อย  2005YU55 ที่เฉียดตัดผ่านวงโคจรของดวงจันทร์ด้านใน ในวันที่ 911 2011





เมื่อประมาณเดือนที่แล้วทางสหรัฐอเมริกาที่อยู่ในแนวซีกโลกที่ตรงข้ามจุดศูนย์ถ่วงกันกับไทยได้ระเบิดเขื่อนเก่าทิ้งไปเขื่อนนึงซึ่งบันทึกภาพไว้โดยเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก   น้ำจำนวนมหาศาลที่ทะลักอยู่ในไทยได้เกิดการรีดตัวตามพื้นดินแนวใกล้เส้นศูนย์สูตร และอยู่ในสภาพคันเขื่อนตาม
ธรรมชาติชั่วคราวตามช่วงเวลาการมาของ ดาวเคราะห์น้อย  2005YU55 ที่เฉียดตัดผ่านวงโคจรของดวงจันทร์ด้านใน นี่คือ 911 2011


ภาพจากลิ้งค์ นาซ่า



http://www.blogmoo.com/yu55-%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%8C
%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%8C
 http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNVEV3TURVMU5BPT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1TMHdOUzB4TUE9PQ==
 http://news.mthai.com/headline-news/139608.html
 http://hilight.kapook.com/view/64466

การที่อเมริกามีการสร้าง นับพันเขื่อน ก็น่าจะเป็นการสร้างจุดศูนย์ถ่วง โมเมนตัม ต่อ หิมาลัย เอฟเวอร์เรสท์  เหวี่ยงสะบัดลาวาเหลวมากร่อน การยกตัวของเพลท


ถ้ารถยนต์กับรถไฟกำลังจะวิ่งตัดกัน ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายนึงเหยียบเบรค หรือเหยียบคันเร่งน้ำมันเพิ่มขึ้น จึงจะพ้นอุบัติเหตุ 



แต่การทำบนโลกสามารถควบคุมปัจจัยเสี่ยงของวงโคจรได้ง่ายกว่าในอวกาศ

Rising sUN
ความเปลี่ยนแปลง การขยายตัว ของจุดดับ บนดวงอาทิตย์ ที่อาจ ส่งผล ต่อ การ วาบ และส่ง ผลกระทบ ที่รุน แรง ต่อ แรง อุณหภูมิบนโลก ฤดูกาล การเพาะปลูก และการขาดอาหาร บนฐานประชากร 7000 ล้านคนได้

ยานเนียร์ชูเมกเกอร์ ยานอวกาศมูลค่า 224 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปฏิบัติภารกิจในการเข้าเกาะดาวเคราะห์น้อยอีรอส    http://thaiastro.nectec.or.th/news/2001/special/near.html

ปฏิบัติภารกิจในการสำรวจดาวเคราะห์น้อยอีรอส (433 Eros) มาเป็นเวลานาน 1 ปีเต็ม กำลังจะลงแตะพื้นผิวของดาวเคราะห์น้อยในคืนวันที่ 12 กุมภาพันธ์ หรือเช้าของวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ เวลาประมาณ 3.00 น. นับเป็นการร่อนลงจอดบนพื้นผิวดาวเคราะห์น้อยโดยยานอวกาศที่มนุษย์สร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ยานเนียร์ชูเมกเกอร์ขึ้นสู่อวกาศเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2539 และเข้าสู่วงโคจรรอบดาวเคราะห์น้อยอีรอสตั้งแต่วันวาเลนไทน์ - 14 กุมภาพันธ์ ของปีที่แล้ว ภารกิจที่ดำเนินมาเกือบ 5 ปี กำลังจะสิ้นสุดลงเนื่องจากโครงการขาดทุนสนับสนุน แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น คือ เชื้อเพลิงสำรองของยานกำลังจะหมด
"เราสนุกมากกับปีที่ผ่านมา และสามารถบรรลุเป้าหมายหลักทางวิทยาศาสตร์ได้ทั้งหมด แต่สิ่งดี ๆ เหล่านี้ต้องถึงวันสิ้นสุด และภารกิจของเรากำลังจะเสร็จสิ้นในวันนี้" ดร. โรเบิร์ต ฟาร์คูฮาร์ ผู้อำนวยการของภารกิจเนียร์ แห่งห้องปฏิบัติการฟิสิกส์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปคินส์กล่าว
ผู้ควบคุมเนียร์ตกลงใจที่จะพยายามนำยานร่อนลงสู่พื้นผิวของดาวเคราะห์น้อย ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ด้านอวกาศของโลกเพื่อถ่ายภาพของก้อนหินบนดาวเคราะห์น้อย หากสำเร็จจะได้ภาพที่ละเอียดกว่าภาพที่ได้จากวงโคจรที่อยู่สูงขึ้นไป ความหวังที่จะควบคุมการลงจอดของยานบนดาวเคราะห์น้อย นับเป็นการท้าทายอย่างมากต่อศูนย์ควบคุมภาคพื้นดิน แม้ว่ายานเนียร์ไม่ได้ถูกออกแบบให้ลงจอดบนพื้นผิวเลยก็ตาม นักวิทยาศาสตร์หวังว่าภาพระยะใกล้ของดาวเคราะห์น้อยจะละเอียดกว่าภาพที่ถ่ายจากวงโคจรราว 5-10 เท่า โดยยานจะถ่ายภาพ 2 ภาพทุก ๆ นาทีขณะที่กำลังตกลงสู่ดาวเคราะห์น้อย โดยภาพเหล่านี้จะส่งกลับมายังโลกเกือบจะทันที
"เราบรรลุเป้าหมายแรกในการสำรวจดาวเคราะห์น้อยแล้ว เป้าหมายที่สองของเรา คือ พยายามที่จะนำยานลงสู่พื้นผิวของดาวเคราะห์น้อยอย่างนุ่มนวล ซึ่งยานเนียร์จะมีอัตราเร็วระหว่าง 1-3 เมตรต่อวินาที หรือประมาณ 2-7 ไมล์ต่อชั่วโมง (4-11 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) อัตราเร็วระดับนี้ดูเหมือนช้ามากแต่ผมมีประสบการณ์การตกลงด้วยอัตราเร็วราว ๆ นี้ตอนที่เป็นพลร่ม และจากการกระโดดร่มในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 คุณจะตกลงสู่พื้นดินด้วยอัตราเร็วประมาณ 7 ไมล์ต่อชั่วโมง หลังจากที่ถูกเหวี่ยงไปมา ดังนั้นผมรู้ว่ามันเป็นการร่อนลงที่ไม่ง่ายเลย" ฟาร์คูฮาร์กล่าว
ดร.โรเบิร์ต กล่าวถึงการร่อนลงของยานเนียร์ในวันนี้ว่า"เราจะปลดยานออกจากวงโคจรด้วยการจุดจรวดเป็นเวลา 4 ชั่วโมงครึ่งก่อนที่ยานจะแตะพื้นผิว หลังจากนั้นยานจะค่อยๆ เข้าใกล้ดาวเคราะห์น้อย นับจากนี้ไปอีกราว 4 ชั่วโมง ยานจะอยู่เหนือพื้นผิวดาวที่ระดับความสูง 5 กิโลเมตร ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เราจะทำการควบคุมการเคลื่อนที่ของยานในขั้นตอนสุดท้าย การจุดจรวดครั้งแรกที่เราเรียกว่าเบรคครั้งที่ 1 จะยาวนานประมาณ 3 นาที หลังจากนั้นไม่นานจะมีการเบรคครั้งที่ 2 ซึ่งนานประมาณ 5 นาที เบรคครั้งที่ 3 จะยาวนานประมาณ 6 นาที และเบรคครั้งสุดท้ายนานประมาณ 4 นาที คุณจะเห็นว่าเรามีการจุดจรวดหลายครั้งซึ่งเราไม่เคยทำมาก่อน แต่ผมเชื่อมั่นว่า ด้วยทีมงานของห้องปฏิบัติการฟิสิกส์ประยุกต์และเจพีแอลที่มีประสบการณ์สูง เราจะวางแผนและพยายามทำให้สำเร็จ"
ก่อนลงจอดจะมีการปรับแผงเซลล์สุริยะให้มีแนวที่เหมาะสมกับทิศทางของดวงอาทิตย์ และสายอากาศของยานก็จะชี้ตรงมายังโลก ซึ่งทั้งสองทำมุมกันเพียง 20 องศาเท่านั้น เมื่อยานลงแตะพื้นผิวของอีรอส มีความเป็นไปได้ที่ยานจะหมุนและไม่ง่ายที่จะคาดเดาว่าอะไรจะเกิดขึ้น
การลงสู่พื้นผิวของอีรอสเริ่มขึ้นในเวลา 10.31 ตามเขตเวลาตะวันออกของสหรัฐฯ หรือตรงกับเวลา 22.31 น. ของวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ตามเวลาในประเทศไทย ซึ่งจะปลดยานออกจากวงโคจรที่ระดับความสูง 35 กิโลเมตร ยานจะแตะพื้นผิวดาวในเวลา 3.04 น ของวันที่ 13 ตามเวลาในไทย ซึ่งขณะนี้ดาวเคราะห์น้อยอีรอสอยู่ห่างจากโลก 316 ล้านกิโลเมตร จุดลงจอดของยานเป็นบริเวณขอบนอกของแอ่งรูปอานม้าที่เรียกว่าฮิเมอรอส (Himeros) ซึ่งภาพสุดท้ายที่ได้จากกล้องถ่ายภาพบนยานจะแสดงพื้นผิวของดาวที่ระดับความสูงราว 500 เมตร ซึ่งจะมีความละเอียดที่สามารถมองเห็นก้อนหินที่มีขนาดใหญ่ประมาณ 10 เซนติเมตรได้

ตำแหน่งลงจอดของยานเนียร์ชูเมกเกอร์บนดาวเคราะห์น้อยอีรอส ภาพใหญ่คือบริเวณที่วงด้วยสีเหลือง ซึ่งเป็นขอบของแอ่งชื่อ ฮิเมอรอส (ภาพจาก JHU-APL)

ยานเนียร์ ชูเมกเกอร์อาจพุ่งชนอีรอส   http://thaiastro.nectec.or.th/news/2001/news2001jan03.html

ยานเนียร์ ชูเมกเกอร์ จะสิ้นสุดภารกิจของการเดินทางเข้าใกล้ดาวเคราะห์น้อยอีรอส ด้วยการพยายามลงจอดบนพื้นผิวของอีรอส ซึ่งมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์
ยานเนียร์ ชูเมกเกอร์ (NEAR Shoemaker) มีกำหนดการจะสิ้นสุดภารกิจในการสำรวจดาวเคราะห์น้อยอีรอส หนึ่งในดาวเคราะห์น้อยโคจรใกล้โลกที่มีขนาดใหญ่ที่สุด วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2544 ทีมผู้ควบคุมยานจะบังคับให้ยานค่อยๆ ลงสู่พื้นผิวของดาวเคราะห์น้อย ซึ่งมีความเป็นไปได้ในทางทฤษฎี แต่โอกาสประสบความสำเร็จนั้นมีน้อยมาก และมีความเป็นไปได้สูงที่ยานจะชนกับดาวเคราะห์น้อยและถูกทำลายลงจากการชน

หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน ยานเนียร์ ชูเมกเกอร์จะส่งภาพความละเอียดสูงของพื้นผิวอีรอสภายในระยะ 1,640 ฟุต (500 เมตร) ก่อนการพุ่งชน ซึ่งจะได้ภาพที่มีความละเอียดดีกว่าภาพที่ได้ก่อนหน้านี้ประมาณ 10 เท่า ขณะนี้ยานอวกาศกำลังโคจรรอบดาวเคราะห์น้อยด้วยวงโคจรที่ระดับความสูงราว 35 กิโลเมตร จากพื้นผิวดาว การปรับวงโคจรให้ใกล้ดาวเคราะห์น้อยมากกว่านี้จะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม แอนดรูว์ เชง นักวิทยาศาสตร์ประจำโครงการกล่าวว่า การเฉียดเข้าใกล้พื้นผิวของอีรอส ทำให้เขาและทีมงานสามารถใช้สเปกโทรมิเตอร์รังสีแกมมาในการวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมี และหากการลงจอดสำเร็จ สเปกโทรมิเตอร์ยังสามารถตรวจหากัมมันตภาพรังสีด้วยความลึก 10 เซนติเมตรจากผิวดาวได้ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าผลการวิเคราะห์องค์ประกอบของดาวเคราะห์น้อยจะช่วยในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการก่อกำเนิดระบบสุริยะ






แต่ภาพนี้เหมือนกับออกจากคอมพิวเตอร์กราฟฟิกความละเอียดสูงมากกว่า

เหตุจากเรื่องของวีดีโอการลงดวงจันทร์เกิดคำถามขึ้นมากมายในหมู่ประชาชนที่มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์   อุตสาหกรรมกราฟฟิกคอมพิวเตอร์ความละเอียดสูงได้รับการสนับสนุนอย่างรุนแรง ทั้งด้านซ็อฟท์แวร์ และฮาร์ดแวร์สำหรับแสดงผล  ทำให้คอมพิวเตอร์ได้ทุนพัฒนาอย่างก้าวกระโดด  โดยเฉพาะบริษัทซ็อฟแวร์ตกแต่งภาพ




และปัจจุบันมีการศึกษาแนวทางการยิงฉมวกสว่านเข้ายึดเกาะดาวเคราะห์น้อย เพื่อแก้ปัญหาแรงดึงดูดน้อย
นาซ่า"เปิดข้อมูล ภาพ"ดวงจันทร์"หดตัว  http://futuresci.webs.com/
เคยมีโครงการศึกษาการทดสอบระเบิดผิวดวงจันทร์

ดาวฤกษ์กระเพื่อม   http://thaiastro.nectec.or.th/news/2001/news2001feb02.html


ภาพตัดขวางแสดงการสั่นเป็นจังหวะของดาวฤกษ์ (ภาพจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์)

ทีมนักดาราศาสตร์จากออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา เดนมาร์ก และสวิตเซอร์แลนด์ ใช้กล้องโทรทรรศน์แองโกล-ออสเตรเลียน ขนาด 3.9 เมตร ที่ตั้งอยู่ใกล้เมืองคูนาบาราบรานในออสเตรเลีย ตรวจวัดการกระเพื่อมของดาวฤกษ์คล้ายดวงอาทิตย์ซึ่งอยู่ห่างออกไป 24 ปีแสง อัตราการเต้นเป็นจังหวะอย่างช้า ๆ ของดาวบีตางูไฮดรัส ยืนยันความคิดของนักดาราศาสตร์เกี่ยวกับพฤติกรรมของดวงอาทิตย์ในอีกไม่กี่พันล้านปีข้างหน้า
ก๊าซที่กำลังหมุนวนในบริเวณชั้นนอกของดาวฤกษ์ก่อให้เกิดคลื่นเสียง คล้ายกับคลื่นที่เกิดจากแผ่นดินไหว ปรากฏการณ์เช่นนี้ทำให้พื้นผิวของดาวฤกษ์มีการเต้นเป็นจังหวะเข้า-ออกในบริเวณต่าง ๆ ซึ่งนักดาราศาสตร์ใช้ปรากฏการณ์นี้ของดาวฤกษ์ในการศึกษาวิวัฒนาการ อุณหภูมิ การหมุนรอบตัวเอง องค์ประกอบทางเคมี และอายุของดาวฤกษ์ เช่นเดียวกับการที่นักธรณีวิทยาติดตามการเคลื่อนที่ของคลื่นที่เกิดจากแผ่นดินไหวในการศึกษาโครงสร้างภายในของโลก การสั่นเช่นนี้สังเกตพบบนดวงอาทิตย์ได้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 ปัจจุบันนี้มีการศึกษาการสั่นของดวงอาทิตย์ลึกลงไปในรายละเอียดยิ่งขึ้น
"จากการเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ ทำให้เราทราบการเคลื่อนไหวภายในดวงอาทิตย์ ความลึกของชั้นต่างๆ รวมถึงองค์ประกอบทางเคมี และเราจะสามารถศึกษาสิ่งเดียวกันนี้จากดาวฤกษ์ดวงอื่น" หัวหน้าทีม ดร.ทิม เบ็ดดิง ประจำมหาวิทยาลัยซิดนีย์กล่าว
เป็นการยากกว่ากันมากในการศึกษาการสั่นของดาวบีตางูไฮดรัส ซึ่งอยู่ห่างออกไป 1.5 ล้านเท่าของระยะทางจากโลกถึงดวงอาทิตย์ เพื่อบรรลุปัญหานี้ นักวิจัยได้ประยุกต์เทคนิคความละเอียดสูงของการค้นหาดาวเคราะห์รอบดาวฤกษ์ดวงอื่น
แสงสว่างมาจากพื้นผิวของดาวฤกษ์ เมื่อพื้นผิวมีการสั่นจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสเปกตรัมของแสง (เรียกว่าการเลื่อนดอปเพลอร์) ซึ่งจะบอกอัตราการเคลื่อนที่ของพื้นผิว นักวิจัยได้ทำการตรวจวัดแสงจากดาวบีตางูไฮดรัสทุก ๆ 2 นาทีเป็นเวลา 5 คืนติดต่อกัน ซึ่งได้ผลการวัดถึง 1,200 ชุด
"พื้นผิวของดาวบีตางูไฮดรัสสั่นเข้า-ออกด้วยอัตราเพียงครึ่งเมตรต่อวินาที เราสามารถตรวจวัดอัตราการสั่นที่ช้ามากระดับนี้เนื่องจากเราใช้เทคนิคที่มีความละเอียดสูง ซึ่งนับว่าดีที่สุดในโลก" ดร.พอล บัทเลอร์ สถาบันคาร์เนกีแห่งวอชิงตัน ผู้พัฒนาเทคนิควิธีการกล่าว
การสั่นของดวงอาทิตย์มีคาบประมาณ 4-8 นาที เมื่อดาวฤกษ์มีอายุมากขึ้น "เสียง" ที่เกิดจากการสั่นจะต่ำลง ดาวบีตางูไฮดรัส มีมวลและอุณหภูมิใกล้เคียงกับดวงอาทิตย์ แต่มีอายุมากกว่าคือประมาณ 7 พันล้านปี ขณะที่ดวงอาทิตย์มีอายุ 4.5 พันล้านปี ตามทฤษฎีนี้ ทำให้นักดาราศาสตร์ทำนายว่าการสั่นของดาวบีตางูไฮดรัสจะมีคาบประมาณ 15-20 นาที นับเป็นชัยชนะของทฤษฎีนี้เมื่อคาบที่วัดได้จริงมีค่า 17 นาที
ทีมนักวิจัยวางแผนที่จะสังเกตการณ์แบบเดียวกันนี้กับดาวแอลฟาคนครึ่งม้าเอ ซึ่งคล้ายดวงอาทิตย์ และเป็นสมาชิกในระบบดาวคู่ อยู่ห่างออกไป 4.3 ปีแสง และเป็นดาวฤกษ์ที่อยู่ใกล้เรามากที่สุดเป็นอันดับที่สอง (ดวงที่ใกล้ที่สุดคือ พร็อกซิมาคนครึ่งม้า)
การสังเกตการณ์เกี่ยวกับการสั่นไหวของดาวฤกษ์จะคืบหน้าไปได้ไกลกว่านี้เมื่อกล้องโทรทรรศน์อวกาศมอนส์ (MONS--Measuring Oscillations in Nearby Stars) ถูกส่งขึ้นไปในปี พ.ศ. 2547 ซึ่งจะเก็บข้อมูลของดาวฤกษ์ต่าง ๆ เป็นระยะเวลา 2 ปี

http://www.physics.usyd.edu.au/~bedding/animations/visual.html



Spacequakes : ปรากฎการณ์ อวกาศไหวสะท้าน
http://www.sunflowercosmos.org/space_news/space_science_home/spacequakes.html


Spacequakes : ปรากฎการณ์ อวกาศไหวสะท้าน
การสำรวจใหม่พบว่า สภาพภูมิอากาศในอวกาศ (Space weather) มีบริเวณกลุ่ม
พื้นที่บางส่วน คล้ายการเกิดแผ่นดินไหว (Earthquake) ไม่มีเสียงฟ้าครางครวญ
แต่เกิดห่าฝนออโรล่า มีประกายแสงสว่างที่รู้จักกันว่า แสงเหนือ (Northern Lights)
จากสนามแม่เหล็กสะท้าน คือ ที่มาของ Spacequake (อวกาศไหวสะท้าน) กลาย
เป็นกุญแจสำคัญ เฉลยบทบาทใหม่ ของสภาพแวดล้อมอวกาศที่อยู่ใกล้โลก

คำนิยาม Spacequake

คือ ความหุนหันพลันแล่นในสนามแม่เหล็กโลก (Earth's magnetic field) รับรู้ได้
จากความแข็งแกร่งในวงโคจรของโลก ซึ่งไม่ใช่แต่ในอวกาศ และสามารถเกิดผล
สะท้อน ย้อนกลับมายังพื้นผิวโลกได้ทุกทาง ด้วยตัวของมันเอง

ปรากฎการณ์ดังกล่าว เปรียบเสมือนได้กับแผ่นดินไหว (Earthquake) บนพื้นโลก
เพราะทั้งหมดนั้น คือ พลังงานจากการไหวสะท้านในอวกาศ เทียบได้กับการสั่น
สะเทือน ของแผ่นดินไหวบนโลก ระดับ 5-6 Magnitude จากรายงานการสำรวจ
บันทึกไว้โดย Space Research Institute สถาบันในประเทศออสเตรเลีย
แสงเหนือ (Northern Lights) หรือ Aurora
THEMIS spacecraft ยานสำรวจที่เฝ้าติดตาม Spacequakes
20
แบบแผนการเกิดอาการ อวกาศไหวสะท้าน

ในปี ค.ศ. 2007 ดาวเทียมสำรวจอวกาศ ตรวจพบอาการแสดง ของ Spacequake
(อวกาศไหวสะท้าน) เริ่มต้นขึ้นจากด้านท้ายของ เส้นสนามแม่เหล็กโลกที่ยาวแผ่
ออกไปเป็นหางทางยาวคล้าย Windsock (ถุงลมรูปกรวย)

ลักษณะโครงสร้าง Windsock (ถุงลมรูปกรวย) นั้นเกิดจากความเร็วของพายุสุริยะ
(Solar wind) ที่มีอัตราการเคลื่อนที่ นับล้านกิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้บางครั้งจึง
กระทำให้เกิดความตึงขึ้น ของเส้นสนามแม่เหล็กจนสะบัดเข้าหากัน

แต่ละเส้นของสนามแม่เหล็กเกิดบิดม้วน (คล้ายแถบเส้นยางหนังสติกพันกัน) จึง
กลายเป็นกับดักพายุสุริยะ ที่พัดถาโถมเข้ามา เต็มไปด้วยไอก๊าซร้อน (Plasma)
ทำให้เส้นสนามแม่เหล็ก ชนกันอย่างแรง

พลังงานที่เกิดขึ้นจากชนนั้น พุ่งย้อนกลับเข้าหาโลก ซึ่งเกิดซ้ำๆขึ้นได้หลายๆครั้ง
คล้ายเป็นแนวเส้นมีแสงสว่างสาเหตุจาก Plasma jets (ไอก๊าซร้อนที่พุ่งเป็นลำ)
ถล่มเข้าสู่โลก
แบบแผน ของสนามแม่เหล็กโลก
Plasma jets (ไอก๊าซที่พุ่งเป็นลำ)
อาณาเขตที่เกิดพฤติกรรม วังวน (Vortices) และ Spacequake (อวกาศสะท้านไหว)
ผลที่เกิด มีความหายนะกับโลก

แน่นอนว่า Plasma jets (ไอก๊าซร้อนที่พุ่งเป็นลำ) มีพลังงานมหาศาล พุ่งกระจาย
คล้ายรัวยิงด้วยปืนกล แต่หนักหน่วงนับล้านเท่า ทำให้เกิดการสั่นสะท้านสะเทือน
ไปในอวกาศใกล้โลก การเกิดขึ้นนี้จะไม่มีเสียง

นั่นเป็นการเกิดขึ้นของ Spacequake (อวกาศไหวสะท้าน) ที่ผ่านมาปรากฎการณ์
ดังกล่าว สร้างความหายนะ ด้านธรณีวิทยาในสนามแม่เหล็ก (Geomagnetic field)
เหนือพื้นโลกราว 30,000 กิโลเมตร ซึ่งเป็นตำแหน่งที่หยุดสะท้อน ของ Plasma
jets (ไอก๊าซร้อนที่พุ่งเป็นลำ)

การกระเด้งกระดอนอยู่ภายในสนามแม่เหล็ก เรียกว่า Repetitive flow rebuffing
อาจเปรียบคล้าย ลูกเทนนิสที่กระดอนไปมากับพื้นพรม ทั้งนี้การกระดอนครั้งแรก
เป็นเรื่องใหญ่ เพราะมีพลังงานมาก หลังจากนั้นครั้งหลังๆที่ตามมา พลังงานจะถูก
ซับออกไปตามลำดับ

ทั้งหมดนี้เป็นข้อสงสัยที่ยาวนาน แต่หลังจากการสำรวจก้าวหน้ามากขึ้น ต้องพบกับ
ความประหลาดใจว่า ไอก๊าซร้อน (Plasma) มีลักษณะเกิดเป็นวังวน หมุนอย่างยุ่ง
เหยิง ปั่นป่วน ของสนามแม่เหล็กก๊าซ เป็นวงกว้างด้วยตัวมันเองเท่าขนาดโลกโดย
บริเวณขอบมีอาการ สั่นไหวของสนามแม่เหล็ก

เมื่อ Plasma jets (ไอก๊าซร้อนที่พุ่งเป็นลำ) พุ่งตัวเข้าสู่ชั้นในของบรรยากาศพื้นที่
แม่เหล็กโลก (Inner magnetosphere) วังวน จะเกิดขึ้นในด้านตรงกันข้าม การ
หมุนจะเปลี่ยนและปรากฎขึ้นใหม่ ออกมาด้านข้างด้านหนึ่งด้านใด โดยเชื่อว่าวังวน
เกิดจากกระแสของประจุไฟฟ้า ที่มีอยู่ในแนวเขตอวกาศใกล้กับสภาพแวดล้อมโลก
แผนภูมิเปรียบเทียบ ค่าพลังงาน ระหว่าง อวกาศไหวสะท้าน (ซ้าย) และแผ่นดินไหวบนโลก (ขวา)
ผลกระทบอื่นๆ สู่โลกยังเป็นคำถาม

พฤติกรรมทั้งสองระหว่างวังวน (Vortices) และ Spacequake (อวกาศไหวสะท้าน)
สามารถเกิดผลกระทบต่อโลกได้ จากส่วนหางของวังวน ที่มีลักษณะเป็นกรวยจะ
ทำให้อนุภาคอวกาศไหลผ่าน เข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก เกิดประกายแสง Aurora ทำให้เกิดคลื่น ของไอออน (Waves of ionization ) สร้างการรบกวนสัญญาน
วิทยุสื่อสาร และระบบ GPS

การถูกชักลากเข้ามาสู่พื้นผิวโลก กระแสของ Spacequake (อวกาศไหวสะท้าน)
มีผลต่อ ระบบสายส่งไฟฟ้า (Power grids) บนโลกเป็นบริเวณกว้าง อย่างหลีก
เหลี่ยงไม่ได้ นั่นเป็นสิ่งที่ทราบแน่ชัดในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีคำตอบสุดท้าย การสำรวจเพื่อวิเคราะห์ผล จากสถานการณ์
จำลอง ต้องดำเนินต่อไป ว่า Spacequake (อวกาศไหวสะท้าน) จะมีขนาดใหญ่โต
ได้เพียงใด ? และพฤติกรรม วังวน (Vortices) สามารถจะหมุนปั่นได้กี่รอบในแต่
ละครั้ง ? และจะมีปฎิกิริยาต่อ สิ่งใดบนโลกอีกบ้าง ?
Reference:

Science@NASA
Goddard's Scientific Visualization Lab
Geophysical Research Letters (GRL)


องค์การเซิร์นกำลังทดลองอนุภาคเป็นวงรอบขนาดใหญ่ที่สุดในโลก 27 กิโลเมตรที่ชายแดนฝรั่งเศส
แต่ถ้ามีอีกซักเครื่องเป็นท่อทองแดงที่กระแสไหลได้ที่อเมริกาก็น่าจะมีโอกาสมากกว่านี้   และถ้ามีอีกเครื่องที่ ที่เอเชียตะวันออก หรือตะวันออกเฉียงใต้ น่าจะใช้ปั่นเป็นมอเตอร์ได้





โดยทุกประเทศที่เข้าร่วมในสัญญาลับ จะใช้พลังทางดัชนีทางเศรษฐกิจมาส่งต่อทอดผ่านไปยังโครงการด้วยกรรมวิธีต่างๆ โต้ตอบกันในทางยุทธศาสตร์ สงคราม เย็น รวมทั้งปฏิบัติการจิตวิทยา ยานมนุษย์ต่างดาว เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับประเทศที่ใช้ภาษีของประชาชนในโครงการด้านอวกาศ เพื่อให้ประชาชนยอมรับการใช้ภาษีสำหรับงบประมาณด้านอวกาศจำนวนมหาศาล โดยอนุญาตให้กระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยสัญญาลับได้กับกลุ่มผู้บริหารประเทศได้เท่านั้น
สาเหตุที่พวกเขาพยายามจุดประเด็นชนวนสงคราม นิวเคลียร์ อาจเป็นเพราะ จำนวนหัวรบ นับ หมื่นๆลูก อาจจะมีจำนวนนึงกลวงอยู่ เพราะต้องรวบรวม จากทั่วโลก ส่งเกาะไปยัง ดวงอาทิตย์ จึงจะ



มีพลังงานเพียงพอที่จะปั่นกระแส และต้องผันงบโครงการอวกาศต่างๆ ด้วยเทคนิคการทำบัญชีให้ถ่ายไปยังโครงการลับ  หลักๆก็คือโครงการเพื่อบิดดวงจันทร์
และจำเป็น ต้อง ทำ information ผ่านโครงการต่างๆ และ แบ่ง รีดดัชนี บนความเจ็บป่วย เพราะ มีคน เพียง หยิบมือ ที่ พอจะเข้าใจ ความจำเป็น ที่จะต้องหาเงิน มาทำโครงการ  มีคนจำนวนมาก ที่อาจเข้าใจ แต่ จะไม่ยอมจ่ายเงิน หรือ ยอมจ่ายภาษี และ มีคนอีกมหาศาล ที่ จะไม่ยอม และ ไม่มีทางเข้าใจ สิ่งเหล่านี้ ได้

โครงการของโซเวียตไม่พบ แท่นธง บนดวงจันทร์
ภาพที่สายลับโซเวียตได้มาคือแท่งนิวเคลียร์กองละเป็นร้อย
นักวิทยาศาสตร์โครงการดวงจันทร์ถูกติดตามวิเคราะห์ ดักฟัง และมีจำนวนนึงเกิดอุบัติเหตุ



จุดคุ้มทุนน่าจะอยู่ ที่ รังสี เปลี่ยนตะกั่วให้เป็นทองได้ จากการทดลองซิงโครตรอนของโซเวียต
และการรู้เวลาที่เกิดแผ่นดินไหวที่แน่นอนโดยละเอียด สามารถวัดค่าความเร็วคลื่นที่เปลี่ยนแปลงขณะผ่านตัวกลางที่แตกต่างกันจากหมุดที่ฝังอยู่กระจายโดยรอบจากรัศมี จะทำให้ทราบว่ามีหลุมแหล่งพลังงานอยู่ในบริเวณนั้นหรือไม่
และแรงอัดมหาศาลเปลี่ยนคาร์บอนให้เป็นเพชรได้


World Government
คำประกาศ "การจัดระเบียบโลกใหม่" ประกอบด้วยสาระสำคัญ 5 ประการ คือ
1.
ความเป็นประชาธิปไตย (Democracy)
2.
สิทธิมนุษยชน (Human Right)
3.
สภาพแวดล้อม (Environment)
4.
การค้าเสรี (Free Trade)
5.
ลิขสิทธิ์และสิทธิบัตร (Copyright) 





New World Order ของอังกฤษ ประกอบด้วยสาระสำคัญคือ
1. Flexibility
2. Free Trade
3. Open Market
4. Proper Stewardship of Environment
5. An Investment
6. Education
7. Infrastructure
8. Innovation





บทความ New World Order... ภารกิจรวมโลกเป็นหนึ่งเดียว !!    http://atcloud.com/stories/60348



New
World Order การจัดระเบียบโลกใหม่ ที่้ผู้นำควรรู้    http://leadership.exteen.com/20090420/new-world-order


สหพันธ์รัฐบาลโลก” (Federal World Government)





 หลังปี 2012 สิ่งนี้จะเกิดขึ้น !!!   โลกทั้งโลก จะเป็นหนึ่งเดียว





Barack Hussien Obama กับ Osama Bin laden คือคนเดียวกัน ? (บินลาเด็นเป็น CIA ของอเมริกา)   http://board.palungjit.com/f2/barack-hussien-obama-กับ-osama-bin-laden-คือคนเดียวกัน-บินลาเด็นเป็น-cia-ของอเมริกา-227658.html



ดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสในวันที่
13 เมษายน พ.ศ. 2572 2029





http://www.chiangkhongcustoms.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=419773&Ntype=5
http://www.gracezone.org/index.php/-2012/559-2572-2029
 พบโลกมี “โทรจัน” ใช้วงโคจรร่วมกัน http://www.manager.co.th/science/viewnews.aspx?NewsID=9540000093897



ปฏิบัติการสร้างความจำเป็นให้มนุษย์เกิดการบริโภคจึงเกิดขึ้น
ผ่านโครงการต่างๆ อาศัยการเพิ่มจำนวนประชากร เพิ่มดัชนีการบริโภค เพื่อเพิ่มปริมาณภาษี เพิ่มโรคความเจ็บป่วยให้จำเป็นต้องใช้ยา (ที่มีการปกปิดผลข้างเคียง) ผลักดันอุตสาหกรรมเพิ่มปริมาณสารพิษตกค้างและปะปนมาในสิ่งแวดล้อม ของใช้จำเป็น ปัจจัย4 สร้าง ร้านสะดวกซื้อ ห้างโมเดิร์นเทรด เพื่อลดปัญหา โรงงานผลิตขายสินค้าเลี่ยงภาษี Information War สะกดจิตให้คนเกิดความอยากจับจ่ายซื้อของ จากพฤติกรรมลอกเลียนแบบละคร โหมโฆษณา มิวสิควีดีโอ โฆษณาแฝงการสะกดจิตใจในหนัง รวมทั้งปฏิบัติการจิตวิทยา จัดการผู้นำเลี่ยงภาษี ที่ส่งผลทางจิตวิทยาให้ประชาชนเกลียดการเลี่ยงภาษี เกิดการเลือกซื้อสินค้าในร้านที่เสียภาษีเพิ่มขึ้น เพิ่มยอดขายให้ร้านแฟรนไชน์สะดวกซื้อ และกดดันให้กลุ่มโรงงานผลิตสินค้าขายนอกบัญชีลดลง (ก็ขนาดหน่วยงานราชการยังมี2บัญชี แล้วเอกชนจะมีบัญชีอยู่กี่เล่มสำหรับหุ้นส่วนที่หลายระดับ โดยเฉพาะปัญหา สำนักงานรับทำบัญชีที่จัดหาผู้ตรวจบัญชีทีเคยถูกพักใบอนุญาตมาให้บริษัทมีข้อแก้ตัว รวมทั้งปัญหาที่ผู้ซื้อสินค้าไม่ยอมเอาใบกำกับภาษี ที่ต้องจ่ายเพิ่ม ทำให้ร้านค้ามีสต็อคบวม แล้วนำไปขายใบกำกับภาษีให้กับผู้ที่ต้องการทุจริต ผ่านเครือข่ายผู้ทำบัญชี ซึ่งแม้แต่ห้างร้านมุมตึก ก็ยังมีการขายใบกำกับภาษีสินค้าที่ตัวเองไม่ได้ขายได้ ซึ่ง สต็อคของสินค้าที่คงค้างในตัวเลขบัญชี ได้กดดันต่อกลุ่มบริษัทประกันวินาศภัยเป็นอันมาก)  แดนสนธยา กรม สรรพากร ที่แม้แต่ระบบคอมพิวเตอร์ของไอบีเอ็มที่ประมูลงานระบบคอมภาษีได้ ก็จำเป็นต้องทิ้งงานประมูล เพราะระบบสนองความซับซ้อนในการคิดภาษีของกรมสรรพากรไม่ได้ มีแต่ระบบกู๊ดกาวาเมนท์ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น จึงจะควบคุมการต่อทอดบิลระบบซื้อขายที่เสียภาษีได้ เพราะในความเป็นจริงของเครื่องคิดเงินด้วยระบบคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ ถ้ามีซอร์สที่เข้าถึง หรือทำให้เครื่องดับเสียข้อมูลการคิดภาษีก็คลาดเคลื่อนได้
มีข่าวสรรพากรโดนโกงภาษีอยู่บ่อยครั้ง และมีหน่วยงานรัฐ วิสาหกิจหลายแห่งมีปัญหาเรื่อง การปิดบัญชี





ปฏิบัติการจิตวิทยาผู้นำพริ้วภาษี
กรมสรรพากรจัดเก็บภาษีได้เฉลี่ย 4แสนล้านในปี 2541-2544 ขึ้นเป็น 5 แสนล้านในปี 2545 ไต่ระดับถึง 1ล้านล้านในปี 2549     ในปี 2550-
2553 จัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ จากปี 2549 
ผลจัดเก็บภาษีสรรพากร  http://www.rd.go.th/publish/310.0.html  
เมื่อ สถานีโทรทัศน์ประกาศรับบริจาค  รัฐบาลร้อยตรีมาร์ค006 รับลูกให้นำไปหักภาษีได้ พร้อมๆกับสรรพากรอนุโลมให้ใช้สลิปใบโอนเงินได้
จะส่งผลให้กลุ่มบริษัทห้างร้าน ที่ปรกติปิดบัญชีเป็นลบ มาตลอด เพราะส่วนใหญ่มีแต่รายการบิลซื้อเข้า มากกว่า บิลขายออก อาจจะเปลี่ยนมา
ปิดบัญชีเป็นบวกเพื่อนำใบบริจาคมาหักภาษี ด้วยผลทางจิตวิทยา ของการเกลียดการเลี่ยงภาษี และความพึงพอใจที่จะแสดงถึงการทำบุญ
แต่ทางที่ดีคุณควรแนะนำให้ผู้อื่นจ่ายภาษีให้เยอะๆ พวกเขาจะได้ไม่ต้องหามุขอื่นมารีดเอาดัชนีการบริโภคจากประชาชนอีก มุขอื่นที่หนักกว่านี้ ล้วนมีเงาของสัญญาทาสซาตานซ่อนอยู่
เวลาซื้อของให้สังเกตุหาร้านที่มีเครื่องคิดเงินที่เสียภาษี โดยทั่วไปจะมีตราของสรรพากรติดอยู่ โอกาสรอดของโลกขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้ซื้อได้ ถ้าทุกประเทศเสียภาษีได้มากๆและมากพอ พวกเขาจะได้หยุดการหาเงินแบบใต้ดิน
ปี 2555 ประมาณการภาษี อยู่ที่ 1.624 ล้านๆบาท  และมีการประเมินว่าถ้าต้อนให้บรรดาผู้ผลิตเข้าสู่ระบบภาษี ไม่ขายของเองได้ มีสักยภาพที่จะเก็บได้ถึง 3 ล้านๆบาท  แต่คงต้องเดินอยู่บนระบบการตรวจสอบเส้นทางการเงิน
อินเดียเปิดให้มีการลงทุนเปิดห้างโมเดิร์นเทรดแบบ 100% เพื่อดึงนักลงทุนลดปัญหาการจัดเก็บภาษี จากความสามารถทางคณิตศาสตร์ของประชาชน แต่ถุกต่อต้านอย่างหนัก
เพื่อป้องกันโชห่วยล้ม กลุ่ม CP ได้เปิดห้าง แมคโครขึ้นมาขายส่ง  แต่ขาย โลตัส ออกไปตามแรงการแข่งขัน แต่คาดว่าโครงสร้างการบริหารยังเป็นกลุ่มเดิมอยู่
กฎหมายยึดทรัพย์ฟอกเงิน เกิดความสำเร็จ จาก ปฏิบัติการ ตู้เย็น นครปฐม บีบให้พวกเขากล้าเอาเงินนอกระบบออกมาลงทุนทำอย่างอื่น พร้อมๆกับการที่หวยขึ้นบนดิน แล้ว CP ติดต่อขอขายหวยใน 711 ทำให้มีการเอาเงินออกมาลงทุนเปิดร้าน 7 11 รวดเดียวกว่า 3000 จนถึงระดับ 6 7000 สาขาแล้ว
พ่อค้าหวยส่วนใหญ่เข้าสู่ร่มธงของ CP
เมื่อกฎหมายแบ้งค์ล้มออก ร้านทองก็พุ่งพรวด
สมาคมผู้ค้าทองควรกระจายความเสี่ยงตั้งกองทุนไปเปิดแถวละตินอเมริกา เวเนซูเอลาเริ่มขนทองที่ฝากไว้ออกจากยุโรปแล้ว  บราซิล มีความเสี่ยงต่อภัยพิบัติอยู่บ้าง แต่ก็เป็นประเทศใหญ่ บริเวณที่มีซูเปอร์วอลเคโน เหลือ โซน อเมริกา ที่ยังไม่ ไหว
กลุ่มธุรกิจผู้ผลิตที่ผลกิจการขาดทุนมาตลอด ไม่มีที่เก็บเงินสด  ทำให้เกิดการขยายกิจการให้รุ่นลูก และเกิดการลงทุนขึ้น
น่าจะมีการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็น 10% สำหรับกิจการที่ไม่ได้จ้าง กลุ่มบริษัทอื่นให้ทำการขาย ส่งสินค้าให้  และออกภาษีมูลค่าเพิ่ม 10% สำหรับ ภาษีซื้อ ในสินค้า หรือกิจการ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
 ออกกฎหมาย เก็บภาษีผลกระทบต่อสุขภาพ และรีไซเคิล
นโบบาย 30บาทรักษาทุกโรค ดูเผินๆเหมือนกับการเพิ่มผลประโยชน์ให้กับบริษัทยา แต่ปัญหาเรื่อง งบประมาณต่อหัว ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมบังคับให้หมอและเภสัชกร เลือกใช้ยาในบัญชียาหลัก ที่ผลิตในประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการลดผลกระทบจากผลข้างเคียงของยาที่จะระบาดสู่ประชาชน และเป็นการเปิดเผยต้นทุนประมาณการในการรักษาโรคทั่วไปต่อครั้ง สร้างความไม่พอใจต่อบุคลากรทางการแพทย์ และมีการโจมตีว่า ทำให้ได้ยาที่ไม่มีคุณภาพ (ก็คุณภาพเกิดจากดีเทลยาสาวสวยของบริษัทยาที่มาพร้อมกับของฝากที่ไม่จำกัด ต้นทุนยาส่วนใหญ่ที่ไม่มีลิขสิทธิ์แพง อยู่ที่ราวๆเม็ดละไม่ถึงสลึงถึงสองบาท อันเป็นสาเหตุว่าทำไมร้านขายยาในแต่ละชุมชนถึงอยู่ได้ ทั้งๆที่มีคู่แข่งเปิดร้านหลายราย  แต่ยาก็มีหลายเกรดจริงๆ แต่บางรุ่นที่ราคาถูกก็ลดการใส่สีด้วย)
ระบบนิเวศน์ของคลีนิคที่หมอเปิดขึ้นเองทำให้เกิดระบบการคัดเลือกใช้บริษัทยาที่สัมพันธ์กับเงินในกระเป๋าของหมอเองขึ้น และหมอได้เรียนรู้ผลข้างเคียงของยาที่สัมพันธ์กับชื่อเสียงของคลีนิค
หมอหลายคนคับแค้นใจกับระบบถึงขนาดวิ่งรอกเปิดคลีนิกตอนเที่ยง 1ชั่วโมง 
การเปิดคลีนิคด้วยตัวเอง เพื่อลดต้นทุนค่ายาให้ชาวบ้าน หมอส่วนใหญ่ที่ยังไม่ได้ขยายจนเปิดใหญ่โตเป็นโรงพยาบาล หรือคลีนิคเครือข่ายบริษัท จะซักอาการจากลูกค้าโดยละเอียดและฉีดยาด้วยตัวเอง โดยไม่นิยมจ้างพยาบาล ยกเว้นเมื่อจำเป็น หรือได้เมียเป็นพยาบาล เซอร์วิสมายด์ของหมอจะเพิ่มขึ้นพร้อมๆกับประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคน เพราะยาส่วนใหญ่มีอันตรายที่แฝงอยู่ในรูปผลข้างเคียง และข้อบ่งชี้จำเพาะ และถ้าใช้ต่อเนื่องจะยิ่งอันตรายมาก เพียงแค่หมอลืมว่าไม่ควรใช้ยาตัวนั้นอย่างต่อเนื่องก็หมายถึงคนไข้กำลังเดินไปสู่จุดแตก และอาการอื่นเรื้อรัง
การจับทุจริตยานักการเมืองครั้งก่อนจึงเป็นการหวังผลระหว่างประเทศ CL ยา เพื่อสร้างแนวในทางยุทธศาสตร์ การต่อรอง
มีบริษัทยาหลายแห่งลดราคาในประเทศไทยลงมา



รัฐน่าจะตั้งกองทุนอุดหนุนอสังหาสำหรับลดต้นทุนให้วงการแพทย์ แต่ต้องทำให้สมุนไพรเบิกได้



ตาข่ายฟ้าไร้รอยต่อ





โครงการสร้างสนามแม่เหล็กจำลองครอบคลุมผิวโลก รองรับการอ่อนตัวของสนามแม่เหล็กโลก ป้องกันผลกระทบทางรังสีจากนอกโลกที่จะทะลุลงมา
  ส่งการรุกทางโทรคมนาคมเข้าไปยังทุกพื้นที่ชุมชนทั่วโลก สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าปกคลุมด้วยเซลไซ้ท์โครงข่ายเซลลูลาร์ และสร้างกลไกตลาดให้มีการแข่งขันเป็นระบบสำรอง ที่ทับซ้อนกัน 3G 4G Wifi WIMAX
แนะนำให้ซื้อหูฟังบลูทูธมาใช้ลดผลกระทบสนามแม่เหล็กไฟฟ้าต่อสมอง
และหาซองหนังคลิปแม่เหล็กที่อยู่ด้านในมาใช้ใส่โทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์มือถือโนเกียเป็นยี่ห้อที่มีค่าการแผ่รังสีค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบรุ่นต่อราคาช่วงเดียวกัน และแผ่รังสีต่ำมากๆในรุ่นราคาแพงที่ออกแบบมาลดรังสี โดยเฉพาะรุ่นที่ใช้แมกนีเซียมอัลลอยด์เป็นโครง
รังสีมีผลต่อเสปิร์ม ต่อมลูกหมาก และรังไข่
ในเว็บไซด์โนเกียมีการเปิดเผยค่าการแผ่รังสีของโทรศัพท์แต่ละรุ่น

ผู้ที่ถ่ายเอกสารบ่อยควร หาแม่เหล็กมาแปะด้วยแผ่นกาวดีบุก อลูมิเนี่ยม ที่ด้านในของฝาเปิดด้านข้างเครื่องถ่ายเอกสาร
และควรระวังให้มากๆถ้าหลอดรังสีรุ่นที่ใช้กับเครื่องถูกเปลี่ยนเป็นหลอดเบอร์แทน
ร้านถ่ายเอกสารควรรับสมัครพนักงานเป็นผู้หญิงที่มีลูกหลายคน

ส่งเสริมให้ ประเทศในแถบเส้นศูนย์สูตร ใช้ แม่เหล็ก เยอะๆ เช่น แอร์ อินเวอร์เตอร์ ลำโพง เครื่องเสียง กำลังสูงๆ
 เร่ง การใช้ก๊าซ ใต้ดิน ให้ หมดก่อน น้ำมัน ถ้ามีการ เขย่า ปลด ปล่อย ก๊าซ มีเทน และ ก๊าซธรรมชาติ พร้อมๆกัน ทั่วโลก ในคราวเดียว จะส่งผลกระทบ อย่างรุนแรง ต่อ ชั้นบรรยากาศ
เร่งฮอร์โมน เร่งดัชนีบริโภค





แกรมผ้าที่ผู้หญิงใส่อยู่ในปัจจุบันมีความบางมากจนเห็นเงารอยชั้นใน เป็นการเร่งให้ฮอร์โมนเพศชายสูบฉีดได้ตลอดทั้งวัน ทำให้ผู้ชายลืมตัวจับจ่ายใช้สอยเงินโดยไม่รู้สึกตัว  ผู้ชายจึงเงินหมดเร็วมากในแต่ละเดือน โดยไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ส่วนผู้หญิงที่ค่อนข้างมีความรอบคอบในการจ่ายเงิน ถูกเร่งด้วยฮอร์โมนในยาคุม ฮอร์โมนเทียมที่ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม  GMO         หนัง และ แฟชั่น ที่ดูดเงินในกระเป๋าผู้หญิงได้ชะงัดนัก
เด็กผู้หญิงที่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ที่เร็วขึ้น มีผลต่อยอดขายผ้าอนามัย ยาคุมกำเหนิด เพลง หนัง แฟชั่น ดารา



พืช GMO จะมีปริมาณ เอสโตรเจนสูงกว่าปรกติ
ผลของการปนเปื้อนของฮอร์โมนเทียม และระดับเอสโตรเจนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิด เกิร์ลเจนเนอเรชั่นขึ้น อัตราการเกิดของเด็กผู้หญิงสูงกว่าผู้ชาย ยกเว้นในจีน และอินเดีย จากผลของความเชื่อและประเพณีค่านิยม ทำให้ยอดทำแท้งค์สูง
ผลของฮอร์โมน โครงสร้างสังคม  ค่าครองชีพ การบริโภคนิยม ช่วงวัยการทำงานและการศึกษา ที่เปลี่ยนไป ทำให้ผู้หญิงช่วงวัย 20 ปีขึ้นไป แต่งงานช้าลงด้วย ซึ่งการไปแต่งช่วงวัย 30+ ส่งผลต่อคุณภาพประชากรรุ่นต่อไป และอัตราเสี่ยงต่อสุขภาพของเด็ก เนื่องจากผู้หญิงช่วงอายุ 22-23 จึงเป็นช่วงวัยเจริญพันธุ์ 
เพื่อให้เด็กมีคุณภาพ ที่ญี่ปุ่นมีค่านิยมที่ผู้หญิงเมื่อแต่งงานแล้วจะลาออกจากงาน ผู้หญิงจึงมีวัยทำงานช่วงสั้นๆ และไม่ต้องพะวงเรื่องงานจนไม่ยอมมีเด็ก
ผู้ที่ร่างกายไวต่อเอสโตรเจน จะมีโอกาสเป็นมะเร็งสูง
ผู้ที่เป็นมะเร็ง จะต้องทนทุกข์ทรมาณและค่าใช้จ่ายจากความเจ็บป่วยที่สูงมาก พร้อมความทรมาณจากการคีโม(ถ้าผู้ที่ไม่ได้เป็นมะเร็งถูกวินิจฉัยผิด ก็จะทรมาณจากการคีโมเช่นกัน มีกรณีนี้เกิดขึ้นหลังสุดที่ออสเตรเลีย ที่อเมริกาตั้งฐานทัพแนวหลังส่งบำรุงกำลัง สงครามประชาชาติปิดล้อมจีนอยู่ โดยกลาโหมอเมริกามีรายงานความผิดพลาดจากการตัดงบประมาร ทำให้มีการจัดซื้อชิป เลียนแบบ จีนในอาวุธ ซึ่งดูเผินๆเหมือนกับว่ากลุ่มทุนการเงินวางแผนทางเศรษฐกิจเพื่อตัดงบ
แต่มีความเลวร้ายชิปหายซ่อนอยู่คือ อาวุธเหล่านี้จะพลาดไปถูกประเทศไหนก็ได้ โดยอ้างความผิดพลาดจากชิปจีน และการตัดงบประมารทำให้ทางเลือกของสหรัฐเหลือน้อยลงในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยสงคราม หรือการยอมเป็นทาสทางเศรษฐกิจFTAเป็นหนูปั่นจักรทางเศรษฐกิจต่อไปเช่นญี่ปุ่นที่ไม่ลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐลง และการตั้งแนวหลังไกลขนาดนั้นทำให้เห็นถึงแผนการรบที่ล่อให้จีนบุกทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งหลายประเทศได้ผลักดันผู้นำหญิงมาใช้บ่ายเบี่ยงสถานการณ์ แต่เนื่องจากออสเตรเลียเกิดภัยพิบัติ พายุ น้ำท่วม อย่างหนักจึงยอมให้เสริมกำลัง และออสเตรเลียอีกเช่นกันที่เปิดเผยผลการทดลองถั่ว GMO มีผลต่อเยื่อปอดให้ถูกทำลายได้เร็วขึ้น)
นมวัว ที่นำมาใช้ทำนมผงจะมีเอสโตรเจนของวัวอยู่ด้วย  โดยปรกติแล้วเด็กผู้ชายควรน่าจะหย่านมเร็วกว่าเด็กผู้หญิง เมื่อถึงวัยทานอาหาร และฟันขึ้นหลายซี่พอที่จะกัด เพื่อลดการรบกวนทางฮอร์โมนเพศ และโอกาสเสี่ยงการเป็นกระเทย
ความสัมพันธ์ของน้ำตาล เอสโตรเจน โรคอ้วน โปรตีน-ไขมันในหลอดเลือด สมอง หัวใจ  มะเร็ง  แม้แต่ในผงแป้งบางชนิดยังเป็นสารประกอบโบร์ไมน์ที่รบกวนภูมิต้านทานมนุษย์  ในยาส่วนใหญ่ไม่รายงานองค์ประกอบของผงแป้งที่ผสมขึ้นรูปจับตัวยาเป็นเม็ดผงยา
ไขมัน น้ำมันปาล์ม น้ำมันถั่วเหลืองที่ปนเปื้อน GMO
เคยเห็นน้ำมันมะกอกในขวดแก้ววางขายในโลตัส
คลอรีน และฟลูออไรด์ มีโครงสร้างทางเคมี คล้ายกับสารประกอบไอโอไดน์ ทำให้ร่างกายเข้าใจผิดว่ามีไอโอดีนสูง และหยุดสร้างภูมิต้านทานได้  ถ้าไม่จำเป็นไม่ควรให้เด็กเล็กๆแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ และควรหาโอ่งมาใช้รองน้ำประปาทิ้งไว้ก่อนนำมาใช้แปรงฟัน
เวลาเลือกซื้อข้าวให้เลือกข้าวสารเก่าเก็บมาแช่น้ำทิ้งไว้ก่อนการหุงด้วยน้ำ RO เพื่อกระตุ้นการงอก เอนไซม์ และลดอิออนของอลูมิเนียมในน้ำประปา  ท่านเคยสังเกตุไหมว่าเวลาขัดหม้ออลูมิเนียมน้ำจะเป็นสีดำ
ถ้าไม่มีหม้อดิน การหุงด้วยวิธีการนึ่งแช่ข้าวในถ้วยกระเบื้องเคลือบยี่ห้อที่รับรองการปลอดสารตะกั่วจึงเป็นอีกวิธีนึงที่ปลอดภัย
เวลาเลือกซื้อหม้อดินให้ถามแหล่งผลิต เลือกแหล่งจังหวัดที่ไม่มีการขุดและสำรวจเจอแร่ตะกั่ว  อย่างเช่นแหล่งกาญจนบุรี ไม่ควรซื้อ ค้นหาข้อมูลแหล่งแร่ตะกั่วได้จาก กรมทรัพยากรธรณี
เทคนิคการแยกหมู่อาหารในการรัปประทานในแต่ละวัน แยก ข้าว แป้ง น้ำตาล เอสโตรเจน โปรตีน-ไขมัน ออกจากกัน แบ่งแยกเป็นหลายมื้อ ไม่ให้เกาะกลุ่ม ช่วยลดความอ้วนได้
ผลของเอสโตรเจนต่อร่างกาย http://www.thaigoodview.com/node/39116

ไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen)   share.psu.ac.th



   มีคำโบราณกล่าวไว้ว่า หญิงที่มีประจำเดือนเมื่อดื่มน้ำมะพร้าวอ่อน  จะทำให้ประจำเดือนหยุดไปหรือกลายเป็นประจำเดือนกะปริดกะปรอยและทำให้มีประจำเดือนครั้งต่อไปล่าช้ากว่าปกติ และคนสมัยก่อนมักแนะนำให้สตรีวัยทองดื่มน้ำมะพร้าว เพื่อลดอาการวูบวาบจากภาวะหมดประจำเดือน ในเรื่องนี้มีนักวิจัยไทย จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ดร.นิซาอูดะห์ ระเด่นอาหมัด อาจารย์ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลา นครินทร์ (ม.อ.) ได้ทำการทดลองหาว่าในน้ำมะพร้าวอ่อนจะมีฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนอยู่หรือไม่  และได้ศึกษาวิจัย เรื่องผลของน้ำมะพร้าวอ่อนต่อการชะลอการเกิดพยาธิสภาพโรคอัลไซเมอร์    โดยได้ทำการทดลองในหนูขาวเพศเมีย อายุ 4 เดือน ที่ถูกตัดรังไข่ออกและแบ่งหนูเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งให้น้ำมะพร้าวปริมาณ 100 มิลลิลิตรต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน และอีกกลุ่มไม่ให้น้ำมะพร้าวทำเช่นนี้เป็นเวลา 5 สัปดาห์ จากนั้นนำหนูขาวไปผ่าสมองเพื่อตรวจสอบระดับเซลล์ประสาท ผลการตรวจสอบพบว่า หนูขาวที่ได้รับน้ำมะพร้าวจะมีอัตราการตายของเซลล์ประสาทน้อยกว่าหนูที่ไม่ได้รับน้ำมะพร้าว นอกจากนี้ยังพบว่าน้ำมะพร้าวอ่อนมีผลทำให้การสมานแผลเร็วขึ้น อีกทั้งยังไม่มีรอยแผลเป็นอีกด้วย ขนจะนุ่มและผิวจะขาวใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด   จากการทดลองพบว่าน้ำมะพร้าวอ่อนมีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง และมีส่วนช่วยลดพยาธิสภาพของโรคอัลไซเมอร์ได้   ขณะเดียวกัน เมื่อไม่นานมานี้มีผลการศึกษาที่ชี้ให้เห็นว่าเอสโตรเจนอาจมีบทบาทที่สำคัญมาก ต่อระบบประสาทส่วนกลาง  โดยอาจไปกระตุ้นการเจริญของเซลล์ประสาท 



                        อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่าในการทดลองนี้มีการให้น้ำมะพร้าวอ่อนกับหนูทดลองในขนาดที่มาก คือให้น้ำมะพร้าวอ่อน 100 มิลลิลิตรต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน  ดังนั้นถ้าเทียบกับในคน เช่นคนที่มีน้ำหนักตัว 50 กิโลกรัมจะมิต้องใช้น้ำมะพร้าวอ่อน 5000 มิลลิลิตร หรือ 5 ลิตรต่อวันเชียวหรือ  และน้ำมะพร้าวนั้นมีไฟโตรเอสโตรเจน ซึ่งไม่ใช่เอสโตรเจน



                  นอกจากน้ำมะพร้าวอ่อนแล้วยังมีพืชอีกหลายชนิดที่มีฮอร์โมน ที่เรียกว่า ไฟโตเอสโตรเจน( Phytoestrogen) ซึ่งมีสูตรโครงสร้างหรือสารที่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาคล้ายฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจน ซึ่งจากการสังเกตการใช้ทางพื้นบ้าน และการสังเกตผลการรับประทานสมุนไพรในด้านต่างๆ เช่น การเพิ่มน้ำนมให้กับสตรีหลังคลอดบุตร หรือประชาชนในประเทศจีนที่รับประทานพืชบางชนิดแล้วสามารถคุมกำเนิดได้ หรือสังเกตจากสตรีที่รับประทานพืชบางชนิดแล้วทำให้สตรีนั้นเป็นหมัน หรือในประเทศญี่ปุ่นซึ่งประชากรมีอุบัติการณ์ของการเกิดโรคมะเร็งเต้านมและต่อมลูกหมากต่ำ คาดว่าเนื่องมาจาก การที่คนญี่ปุ่นได้รับไฟโตรเอสโตรเจนจากการบริโภคผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองอยู่เป็นประจำ เมื่อเปรียบเทียบการบริโภคอาหารถั่วเหลืองนั้น ประมาณกันไว้ว่าการได้รับผลิตภัณฑ์อาหารถั่วเหลืองในคนญี่ปุ่นได้รับสูงสุดคือ เป็น isoflavones 200  มิลลิกรัม/วัน ส่วนคนเอเชียอื่น ๆ ได้รับ 25-45 มิลลิกรัม/วันและประเทศทางตะวันตกได้รับน้อยกว่า   5 มิลลิกรัม/วัน รวมทั้งอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งที่สัมพันธ์กับฮอร์โมนระหว่างชาวฟินแลนด์ อเมริกัน และญี่ปุ่น พบว่าคนญี่ปุ่นซึ่งมีการขับถ่ายไฟโตรเอสโตรเจนออกมาในปริมาณมากที่สุดทางปัสสาวะนั้นมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่ำสุด  ซึ่งแง่มุมเหล่านี้ทำให้มีการศึกษาเกี่ยวกับสารประกอบในพืชที่มีฤทธิ์เหมือนเอสโตรเจนคือสามารถออกฤทธิ์ต่อเซลล์ของผนังมดลูก รังไข่ และเต้านม โดยทำให้เยื่อบุผนังช่องคลอดนาขึ้น หรือกระตุ้นการทำงานของเยื่อบุปากมดลูกให้มีการหลั่งเมือกที่ปากมดลูกมากขึ้น หรือเพิ่มการเจริญเติบโตและเพิ่มจำนวนกล้ามเนื้อที่มดลูกหนาขึ้น หรือมีผลต่อการเจริญเติบโตของต่อมน้ำนมที่เต้านม



            ไฟโตรเอสโตรเจนนี้ประกอบไปด้วยสารหลายกลุ่มเช่น
•       สารกลุ่ม isoflavone สารกลุ่มนี้จะมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเพศหญิงมาก เนื่องจากสูตรโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเพศ และสามารถจับกับตัวรับเอสโตรเจนในเซลล์( estrogen receptor )ได้มีสารกลุ่มนี้ได้แก่ genistein ที่พบในถั่วเหลือง ถั่วเขียว หญ้าแพรก alfalfa ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกสู่ตลาดในปัจจุบัน daidzein พบในถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วดำ เมล็ด alfalfa, miroestrol พบในกวาวเครือ Chandalone และ osajin พบในเถาวัลย์เปรียง Formononetin พบในชะเอมเทศ
•       สารกลุ่ม terpene สารกลุ่มนี้แสดงฤทธิ์เป็น estrogenic activity ได้แก่สารในกลุ่ม triterpenoid saponin ได้แก่ asiaticoside ในใบบัวบก emarginatoside B และ C จากผลมะคำดีควาย ursolic acid พบในพืชทั่วไปและพบมากในผลคัดเค้า
•       สารกลุ่ม lignan สารกลุ่มนี้ที่มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเพศคือ enterolactone และ Enterodiol จะพบมากในเส้นใยในพืช ดังนั้น สตรีวัยใกล้หมดประจำเดือนจะถูกแนะนำให้รับประทานผักหรือพืชที่มีเส้นใยมาก เนื่องจากมีสารดังกล่าวที่แสดงฤทธิ์เป็น estrogenic effect นั่นเอง



ไฟโตรเอสโตรเจนและโรคมะเร็ง
                      ประชากรในภูมิภาคเอเซียและยุโรปตะวันออกพบการเกิด มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่  มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งต่อมลูกหมาก และรวมถึงโรคหลอดเลือดหัวใจ น้อยกว่าทางประเทศแถบตะวันตกมาก ทางระบาดวิทยาพบว่าไฟโตรเอสโตรเจนมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการป้องกันภาวะเหล่านี้ในคนเอเซียโดย เฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคถั่วเหลือง   รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากถั่วเหลือง เป็นประจำซึ่งเป็นแหล่งหลักของ   isoflavones คนญี่ปุ่นซึ่งรับประทานอาหารประเภทนี้มาก   พบว่าพบอุบัติการของมะเร็งที่สัมพันธ์กับฮอร์โมนน้อยที่สุด   ในขณะที่คนญี่ปุ่น ซึ่งอพยพออกจากประเทศแล้วดำเนินวิถีชีวิตแบบชาวตะวันตก พบว่าความเสี่ยงเพิ่มขึ้น  จากการศึกษาพบว่าไฟโตรเอสโตรเจนสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งของมะเร็งเต้านมได้ 18-20%   มะเร็งลำไส้ใหญ่15-30 %
จากรายงานการวิจัยกล่าวว่าผลของไฟโตรเอสโตรเจนที่เกี่ยวกับเซลล์มะเร็ง อาจแยกได้เป็น 2 แง่ คือ จากการแสดงฤทธิ์เป็น เอสโตรเจน และจากฤทธิ์ antioxidant ของสาร  ฤทธิ์ในลักษณะเอสโตรเจนของไฟโตรเอสโตรเจนเกิดขึ้นได้เนื่องจากสารเหล่านี้มีสูตรโครงสร้างบางส่วนคล้ายคลึงกับฮอร์โมนเพศหญิง estradiol  และถึงแม้ว่าสารกลุ่มนี้จะจับกับreceptor  ซึ่งคือตัวจับกับตัวรับของเอสโตรเจนของเซลล์ได้ไม่ดีเท่า estradiol เอง  นอกจากนี้การจับกันดังกล่าวก็สามารถทำให้เกิดการตอบสนองในเซลมะเร็งต่างๆ กันไปได้ทั้งในลักษณะที่เหมือนกับผลของเอสโตรเจนเองหรือเป็นในทางตรงกันข้าม    ที่ระดับความเข้มข้นต่ำๆไฟโตรเอสโตรเจนบางตัวสามารถแสดงฤทธิ์เหมือนเอสโตรเจนโดยกระตุ้นการเจริญของเซลล์   แต่ขณะเดียวกัน ที่ความเข้มข้นสูงขึ้น ไฟโตรเอสโตรเจนชนิดเดียวกันนั้นลับแสดงฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเซลล์แทน(anti-estrogen)  ลักษณะของปรากฏการณ์ที่เป็น biphasic เช่นนี้ยังไม่เป็นที่เข้าใจกันดีนัก และอาจจะเกี่ยวข้องกับศักยภาพของ ไฟโตรเอสโตรเจนเหล่านี้ในการแสดงฤทธิ์ที่ขึ้นกับตัวแปรหลายๆ อย่างได้ที่ความเข้มข้นต่ำ แต่ที่ความเข้มข้นสูงกลับแสดงฤทธิ์โดยใช้กลไกคนละแบบกับเอสโตรเจน  บางรายงานกล่าวว่าไฟโตเอสโตรเจนที่ได้หลังการรับประทานอาหารที่มีไฟโตเอสโตรเจนในปริมาณปกติ ไฟโตเอสโตรเจนจะแย่งจับ Estrogen Receptor กับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย(anti-estrogen)   และช่วยป้องกันการเติบโตของเซลล์ที่ถูกกระตุ้นด้วยได้ด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน ดังนั้นไฟโตเอสโตรเจนจึงอาจจะลดหรือยับยั้งฤทธิ์ของเอสโตรเจนที่มีต่อเซลล์หรือเนื้อเยื่อที่ตอบสนองต่อเอสโตรเจน เช่น เนื้อเยื่อเต้านม เป็นต้น ซึ่งทำให้ไฟโตเอสโตรเจนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมได้



เช่นเดียวกับงานวิจัยต่างๆที่ยังไม่มีผลสรุปที่แน่นอน อาจเนื่องจากในการวิจัยนั้นมีประชากรที่ใช้ในการวิจัยไม่มากพอ  หรืออาจเกิดจากเชื้อชาติที่ต่างกัน  สิ่งแวดล้อมอื่นๆที่แตกต่างกัน  หรือวิธีการทดลองที่แตกต่างกันจึงทำให้ผลลัพธ์ของนักวิจัยแต่ละกลุ่มแตกต่างกันออกไป      ในเรื่องไฟโตเอสโตรเจนนี้ก็เช่นเดียวกัน นักวิจัยก็ยังมีความเห็นที่เหมือนกันและต่างกัน  ที่ยอมรับกันทั่วไปก็คือไฟโตรเอสโตรเจนตัวเดียวกันจะมีฤทธิ์ที่ทั้งคล้ายกับเอสโตรเจน และฤทธิ์ต้านเอสโตรเจน(anti-estrogenic effect)   ส่วนความเห็นที่ยังขัดแย้งกันคือไฟโตรเอสโตรเจนนี้จะมีผลเช่นเดียวกับเอสโตรเจนทุกอย่างหรือไม่ เพราะหากไฟโตรเอสโตรเจนมีผลที่เหมือนกับเอสโตรเจนทุกอย่างก็จะมีผลที่ไม่ดีต่อมะเร็งบางชนิดที่ไวต่อฮอร์โมนเอสโตรเจน  เช่น มะเร็งเต้านม หรือมะเร็งมดลูก  แต่นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ก็ยอมรับว่าไฟโตรเอสโตรเจนในระดับที่สูงจะมีฤทธิ์ที่ขัดขวางการทำงานของเอสโตรเจนได้ ซึ่งจะทำให้มีผลดีต่อมะเร็งที่เอสโตรเจนเป็นตัวกระตุ้นในการทำให้เกิดมะเร็งพวกนี้  แต่ก็ให้เหตุผลไม่ได้ว่าเหตุใดไฟโตรเอสโตรเจนที่ระดับความเข้มข้นต่างกันจึงให้ฤทธิ์ที่แตกต่างตรงข้ามกัน



 ไฟโตรเอสโตรเจนนั้นน่าจะมีฤทธิ์ที่คล้ายกับเอสโตรเจนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ได้มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเอสโตรเจน(anti-estrogenic effect)โดยตรง  เพียงแต่การที่ไฟโตรเอสโตรเจนนั้นมีโครงสร้างที่คล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจนจึงไปแย่งที่กับเอสโตรเจนที่จะไปจับกับตัวรับเอสโตรเจน( estrogen receptor)ในเซลล์  แต่การออกฤทธิ์ของไฟโตรเอสโตรเจนนี้จะไม่เหมือนกับเอสโตรเจนไปทั้งหมดทีเดียว ในหญิงที่ร่างกายมีเอสโตรเจนไม่เพียงพอ ไฟโตรเอสโตรเจนนี้จะทำหน้าที่คล้ายเอสโตรเจนโดยจะไปเสริมในส่วนที่ยังขาด จึงมีผลช่วยบรรเทาอาการของการขาดเอสโตรเจนได้ในหญิงที่หมดประจำเดือน แต่ไฟโตรเอสโตรเจนมีผลในแง่ที่ต่างกับเอสโตรเจนก็คือจะไม่มีผลไปกระตุ้นต่อเซลล์มะเร็งที่ไวต่อเอสโตร เจน  และการที่ไฟโตรเอสโตรเจนไปแย่งที่กับเอสโตรเจนได้ ก็จะทำให้เอสโตรเจนที่ร่างกายมีอยู่ออกฤทธิ์ได้น้อยลง  และในระดับที่ยิ่งมีความเข้นข้นของไฟโตรเอสโตรเจนในร่างกายมากขึ้นเท่าใดก็จะยิ่งไปแย่งที่การจับกับเอสโตรเจนได้มากขึ้นเท่านั้น จึงยิ่งทำให้มีผลดีต่อการรักษามะเร็งเต้านม  มะเร็งมดลูก  และในขณะเดียวกันผลที่คล้ายกับเอสโตรเจนนี้ก็จะไปขัดขวางการทำงานของฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรนที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้ด้วยเช่นกัน
   กวาวเครือ
 ตังกุย(Dong Quai)
ไฟโตรเอสโตรเจนพบได้ในพืชกว่า 70 ชนิด ทั้งพืชที่เป็นสมุนไพรและพืชที่เป็นอาหาร  เช่นในสมุนไพรจะพบได้ใน พลู (ใบ, ราก)  ดีปลี (ราก) ลักกะจั่น จันทร์แดง หญ้าคา, หญ้าแพรก (ใบและเมล็ด) แห้วหมู (ราก) สบู่ดำ (เมล็ด) ระหุ่ง (เมล็ด) น้ำนมราชสีห์ (ทั้งต้น) ลูกใต้ใบ (ทั้งต้น) คูน (ผล) มะกล่ำตาหนู (เมล็ด) กวาวเครือ (ราก) ตังกุย (ราก)  ทองกวาว (ราก) ชบาแดง (ราก, ดอก) ฝ้ายแดง (เมล็ด) เจตมูลเพลิงแดง (ราก) คัดเค้า (ผล) มะคำดีควา (ผล) เทียนดำ (เมล็ด) เทียนสัตตบุตษ์ (เมล็ด)  เทียนข้าวเปลือก (เมล็ด) คนทีเขมา (เมล็ด) ปาล์ม (เมล็ด) ว่านชัดมดลูก (เหง้า) ขิง (เหง้า) ประทัดจีน (แก่น) สะเดาอินเดีย (ใบ) แพงพวยฝรั่ง (ใบ, ราก) หญ้าหัวโต (ทั้งต้น) ครามป่า (เมล็ด) ชิงดอกเดียว (ราก) ส้มกุ้ง (ราก) อีหรุด น้อยหน่า (เมล็ด)  
ส่วนในพืชที่เป็นอาหาร เช่น  กระเจี๊ยบแดง (กลีบเลี้ยง) กระเทียม พริกไทย กระชาย กระเพรา สะระแหน่ โหระพา (ใบ) สับปะรด มะละกอ (เมล็ด) ปูเล่ กะหล่ำดอก ผักกาดแดง (เมล็ด)  มะนาว และมะกรูด (เปลือก ผล) บัวบก ขมิ้น ถั่วต่างๆ และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้ น้ำนมถั่วเหลือง โกโก้ มะพร้าว(น้ำมะพร้าวอ่อน) อินทผลัม แครอท (หัว) น้ำมันจากเมล็ดทานตะวัน  ผลิตภัณฑ์จากองุ่นทั้งไวน์ขาว และไวน์แดง  พืชที่จัดว่ามีไฟโตรเอสโตรเจนในระดับสูง คือ กวาวเครือ(ราก)    ตังกุย(ราก)   Flaxseed หรือ Linseed(เมล็ดของต้น flax ซึ่งใช้ทำผ้าลินิน)   ถั่วต่างๆ (ถั่วเหลืองมีมากกว่าถั่วเขียว ถั่วลันเตา) น้ำมะพร้าวอ่อน 



อย่างไรก็ตามไฟโตรเอสโตรเจนนั้นมีฤทธิ์ที่เทียบกับเอสโตรเจนได้เพียงอ่อนๆ  เพียง 1 ใน 500 ถึง 1 ใน 1000  เท่านั้น      ผลที่ได้จากไฟโตร เอสโตรเจนในระดับที่ทานเป็นอาหารประจำวัน จึงอาจจะช่วยได้บ้างเกี่ยวกับอาการที่ขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่มีผลต่อระบบการขยายตัวของเส้นเลือดที่ทำให้มีอาการร้อนวูบวาบ( hot flush)ในหญิงที่เริ่มหมดประจำเดือนได้บ้าง  แต่จะให้แทนที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนทั้งหมดเลยคงจะไม่ได้ผลถึงขนาดนั้น          และเนื่องจากไฟโตรเอสโตรเจนนี้ประกอบไปด้วยสารต่างๆหลายกลุ่ม จึงยังไม่แน่ว่าสารบางตัวจะออกฤทธิ์ที่ให้ผลดีต่อร่างกายไปเสียทั้งหมด เนื่องจากข้อมูลเกี่ยวกับพิษวิทยาของไฟโตรเอสโตรเจนบางตัวในขณะนี้ยังมีไม่เพียงพอ





ประโยชน์ของถั่วเหลืองกับประชากรวัยทอง  http://www.healthdd.com/article/article_preview.php?id=51
การแพทย์แนวป้องกัน ตรวจเลือดสดหาสมดุลฮอร์โมน  http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=330&contentID=177596



ให้ไปศึกษารายละเอียดวันเวลาการเกิด
CME  รังสีแกมม่า  ระดับความแรง ตั้งแต่ปี   1991 โดยเฉพาะปี 2004  พร้อมข้อมูลแผ่นดินไหวทั่วโลก          ความแรงของอนุภาคนิวตริโน

http://www.sunflowercosmos.org/space_news/space_science_home/solar_radio_storm.html
Solar radio storm : คลื่นลมมรสุมสุริยะ
บนดวงอาทิตย์ไม่เคยเงียบ การทำงานของดวงอาทิตย์ (Sun) มีเสียงดังของ
คลื่นเสียงและการระเบิด ของเปลวสุริยะ เสียงครวญครวญครางสนามแม่เหล็ก
โดยเฉพาะบริเวณจุดบนดวงอาทิตย์ (Sunspots) บางครั้งเกิดเสียงติดต่อกัน
หลายวันอย่างไม่ขาดสาย

เสียงดังกล่าวบริเวณจุดบนดวงอาทิตย์ (Sunspots) สามารถบันทึกได้ ที่ขนาด
คลื่น 180 MHz เรียกว่า Solar radio storm (คลื่นลมมรสุมสุริยะ) ในประเภท
Type I คือ เป็นคลื่นเสียงที่ระเบิดขึ้น คล้ายกับคลื่นซัดฝั่งในมหาสมุทรบนโลก
(Ocean surf) เป็นกลไกจากส่วนหนึ่งของพลังงาน ที่เกิดขึ้นใหม่บนดวงอาทิตย์

การเปล่งคลื่นวิทยุ (Radio emissions) เกิดจากสาเหตุไม่มีความเสถียรภาพ
ของไอก็าซความร้อน สูง (Plasma) ในชั้นบรรยายากาศเหนือ บริเวณจุดบน
ดวงอาทิตย์ (Sunspots) ซึ่งแปรเปลี่ยน เป็น กัมมันตภาพรังสี (Radio-active)
เป็นปรากฎการณ์ที่ไม่ใช่ความบังเอิญ แบบทั่วไปในพฤติกรรม ของดวงอาทิตย์
พื้นที่ AR1176 และ AR1178
AR1176 บริเวณด้านล่าง (ภาพบน) มีการแผ่ขยายเป็นเส้นทางยาวของสนาม
แม่เหล็กคล้ายเป็นเส้นใยเล็กๆ (Magnetic filaments) วกวน โดยมี จุดบนดวง
อาทิตย์ (Sunspots) อยู่จำนวน 2 จุด คือ Active region's wake หรือเรียกว่า
บริเวณพฤติกรรมตื่นตัว จุดดังกล่าว มีขนาดกว้างจุดละ 500,000 กิโลเมตร
(ใหญ่กว่าโลกราว 40 เท่า) ซึ่งเป็นแหล่งเกิดเสียงจากดวงอาทิตย์ บันทึกไว้
เมื่อ 27 มีนาคม 2011 เวลา 1930 UT
พื้นที่ AR1176 และ AR1178
พื้นที่ AR1176 และ AR1178
ฟังเสียง-------Solar radio storm : คลื่นลมมรสุมสุริยะ
References:

Space Weather News
 http://www.sunflowercosmos.org/space_news/space_science_home/space_weather_emergence.html
Space Weather Emergence : เตือนภัย พายุอวกาศ
ตลอดช่วง 100 ปีที่ผ่านมา ดวงอาทิตย์ (Sun) ก่อให้เกิดพายุสุริยะรุนแรง
(Solar storms) กระทบไปเป็นวงกว้าง เรียกว่า พายุอวกาศ (Space storm)
ดูเหมือนจะมีความผิดปกติ เพราะได้สร้างความเสียหายกับดาวเทียมและระบบ
สื่อสารบางส่วน บนพื้นโลกมาแล้ว ทำให้เกิดคำถามว่า จะเกิดเหตุการณ์อะไร
รุนแรงหรือไม่ ?

ในปัจจุบันนี้ บนโลกของเรามีระบบเทคโนโลยีที่สูงขึ้นเช่น โครงข่ายระบบไฟฟ้า (Smart power grids) บนท้องฟ้ามีดาวเทียมกว่า 20,000 ดวง บางส่วนเกี่ยว
ข้องกับระบบสื่อสารอินเตอร์เนท ร่วมทั้งระบบ GPS นำร่องการคมนาคม ทาง
บกทางเรือและทางอากาศ

สิ่งเหล่านี้แน่นอนว่ามีความเสี่ยงเพราะ พายุสุริยะรุนแรงนั้นเต็มไปด้วยอนุภาค
ไฟฟ้าสามารถทำให้ระบบต่างๆนั้น ขัดข้องได้ ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ใน
ชีวิตประจำวัน

ผลจากรายงานของ National Academy of Sciences ในปี ค.ศ. 2008 ที่ผ่าน
มาระบุไว้ว่าในช่วงศตวรรษนี้ หากเกิดพายุสุริยะรุนแรง อาจจะส่งผลกระทบด้าน
เศรษฐกิจเป็น 20 เท่า เมื่อเทียบกับของการเกิดพายุ Hurricane Katrinas ใน
ประเทศอเมริกา ซึ่งได้สร้างความเสียหายขนานใหญ่มาแล้ว

ดูเหมือนว่า สถานะการณ์ ในปี 2011 จะรุนแรง และยุ่งยากมากขึ้น ด้วยระบบ
GPS ถูกไม่ไว้วางใจจากสายการบิน และเรือเดินสมุทร ระบบธนาคารเริ่มกังวล
อาจจะต้องหยุดชะงัก ธุรกรรมทางการเงิน จากระบบ Online ล้มเหลวลงจาก
พายุสุริยะรุนแรง จากที่ต้องอาศัยการสื่อสารจากดาวเทียม หรือปัญหาระบบ
โครงข่ายไฟฟ้าหยุดการจ่ายกระแสไฟฟ้่าลง
พายุสุริยะรุนแรง (Solar storms)
สิ่งเหล่านั้นทำให้นักวิทยาศาสตร์ จำเป็นต่อเร่งเรียนรู้ต่อภาวะเสี่ยงภัยดังกล่าว
เพื่อเป็นหนทาง การแก้ไขในบางเรื่อง โดยสถาบัน GSFC Space Weather Lab
ได้พัฒนาโปรแกรมการตรวจ สอบทิศทาง พายุสุริยะรุนแรง แบบ 3 dimensions
แสดงผลการพุ่งปะทะโลก เพื่อเป็นระบบแจ้งเตือนภัยจากอวกาศได้ล่วงหน้า
ซึ่งจะช่วยปกป้อง ระบบเทคโนโลยี ต่างๆที่อาจต้องพบกับ เหตุการณ์สุดขั้วของ
การเกิดของ กิจกรรมบนดวงอาทิตย์ (Solar activity) ที่จะส่งต่อมายังโลก

การพัฒนาโปรแกรมดังกล่าวนั้น ใช้ข้อมูลจากยานสำรวจจำนวนมาก คอยเก็บ
ข้อมูลอยู่รอบๆดวงอาทิตย์ โดยประมวลผลลงในระบบ Supercomputers ภาย
ใน 1 ชั่วโมง หลังเกิดเหตุการณ์บนดวงอาทิตย์ เพียงพอที่จะแจ้งเตือนผลกระทบ
บนพื้นที่โลก

โดยจะวิเคราะห์ผล คาดการเส้นทาง แนววิถีการพัด มาของพายุสุริยะรุนแรง
ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่ นักวิทยาศาสตร์ ต้องพยากรณ์เหตุการณ์สำคัญต่อโลก
เพื่อการเตือนภัยเช่นนี้ เรียกว่า Emergence of serious physics-based space
weather models หรือ แบบจำลองภาวะฉุกเฉิกร้ายแรง ของฟิสิกส์ในสภาพ
บรรยากาศอวกาศ
การเก็บข้อมูลหลัก ประกอบไปด้วยยานสำรวจ Stereo A และ Stereo B โคจรรอบดวงอาทิตย์ ทั้งด้านบน และด้านหลัง และยานสำรวจ Messenger โคจรรอบดาวพุธ
Emergence of serious physics-based space weather models
ทางโคจรของ ยานสำรวจ SOHO และ Stereo A และ Stereo B
แบบจำลองนี้มีความซับซ้อน สามารถพยากรณ์กระแสไฟฟ้าที่มากับพายุสุริยะ
และไหลลงดิน เพื่อหาจุดอันตรายที่จะเกิดกับ โครงข่ายระบบไฟฟ้าบนพื้นโลก
ก่อนล่วงหน้า โดยหยุดการจ่ายกระแสไฟฟ้าชั่วคราว เพื่อไม่ให้เกิดอัตรายต่อ
ชีวิตและทรัพย์สิน

แน่นอนว่าระบบการเตือนภัย ยังสามารถแจ้งเตือนไปยังประชาชนให้หลีกเลี่ยง
การเดินทางออกไปนอกบ้านเพื่อความปลอดภัย ถ้าจำเป็น ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญ
ต่อการเตรียมพร้อม

แต่ปัญหาคือ หากเตือนแล้วผู้คนไม่เข้าใจก็จะไม่มีประโยชน์ใดๆเลย อย่างไร
ก็ตามการคิดอ่าน เพื่อการเตรียมพร้อม ของทีมนักวิทยาศาสตร์นี้นับว่าเป็น
สิ่งที่ดีเป็นการป้องกัน แม้ข้อมูลที่ผ่านมายังไม่เคยแสดงผลอันตรายต่อชีวิต

วันข้างหน้าเราคงจะฟังข่าวรายงานอากาศในโทรทัศน์ เรื่องสภาพบรรยากาศ
อวกาศไปพร้อมๆกับรายงานข่าวอากาศบนโลก และคงซื้อ Application บน
iTunes ไว้ใน iPhone และ iPod ไว้คอยเตือนภัยส่วนตัว โดยแต่ละคนคงมีชุด
The Bio-Suit System อยู่ในกระเป๋าข้างตัว หรือมีติดรถไว้ ป้องกันรังสีอันตราย
ที่อาจหลุดรอดเข้ามาบนโลก ขณะอยู่นอกบ้าน ก็อาจเป็นได้
Application ผลงานของ NASA Space Weather Version 1.0.1
โดย National Aeronautics and Space Administration ใน iTunes
The Bio-Suit System ใช้สำหรับมนุษย์อวกาศ สวมใส่ไว้ภายใน คล้ายเป็นชุดชั้นใน
สามารถช่วยป้องกันอันตราย เรื่องรังสี และให้ความสะดวกสบายขณะทำงานในอวกาศ
References:

NASA Goddard Space Flight Center's Solar Terrestrial Probes Program
Johns Hopkins University Applied Physics Laboratory
GSFC Space Weather Lab


leap second time ของนาฬิกาอะตอม ความสัมพันธ์ การหมุน ของโลกรอบแกนและรอบดวงอาทิตย์  ที่ใช้มาตั้งแต่ ปี 1972 มีการปรับไปแล้วกว่า 25 ครั้ง
http://translate.google.co.th/translate?hl=th&sl=en&u=http://en.wikipedia.org/wiki/Leap_second&ei=ILJLT4WLF9DIrQeblsW1Dw&sa=X&oi=translate&ct=result&resnum=1&ved=0CDIQ7gEwAA&prev=/search%3Fq%3Dleap%2Bsecond%2Btime%26hl%3Dth%26rlz%3D1R2ADFA_enTH454%26biw%3D1366%26bih%3D605%26prmd%3Dimvns

แต่สารเคมี รังสี GMO เอสโตรเจนสูงเป็นหนทางนึงของการเร่งวิวัฒนาการ